ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวที่น่าแปลกใจจากทั่วโลกเกี่ยวกับสัตว์นานาประเภทที่เราคิดว่าพวกมันสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่จู่ๆ ก็พบพวกมันอีกครั้ง เป็นข่าวที่สวนทางกับแนวโน้มที่สภาพภูมิอากาศโลกเสี่ยงที่จะทำให้สัตว์ที่อีกหลายประเภทต้องสูญพันธุ์
Algramo เป็นสตาร์ทอัปในเมืองซานติอาโก ประเทศชิลี ชื่อของบริษัท “Algramo” หมายถึง “นับตามกรัม” นั่นคือการขายสินค้าแบบเติมหรือ refill โดยคิดตามน้ำหนักหรือจำนวนกรัม ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องไปซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สิ้นเปลือง แต่จะมีจุดเติมหรือบริการเติมให้ถึงบ้านด้วย
ภูฏานดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 7 ล้านตันต่อปี แต่ผลิตคาร์บอนเพียงประมาณ 2 ล้านตันเท่านั้น และภายในปี 2030 ภูฏานมีแผนที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์และผลิตของเสียให้เป็นศูนย์
ในขณะที่อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น คำถามเกี่ยวกับการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเริ่มเร่งด่วนมากขึ้นว่าผลกระทบด้านลบของเราไปไกลเกินไปหรือไม่? สายเกินไปที่เราจะย้อนกลับความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่? .
บริษัท Polar Night Energy เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีพลังงานจากฟินแลนด์ที่คิดค้นพลังงานหมุนเวียนมที่เรียกว่า Heat Storages ซึ่งใช้ “ทราย” ในการกักเก็บพลังงานไว้ใช้ได้นานหลายสิบปี
การแก้ปัญหาสายสื่อสารระโยงระยางรกหูรกตาตามเสาไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อเตรียมเอาลงดินเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นเป็นลำดับ ล่าสุดรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลฯ รับเป็นเจ้าภาพคนกลางประสานกับทุกหน่วยงานตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมแก้ปัญหานี้ร่วมกับ กทม.
Atomo Coffee เป็นแบรนด์กาแฟที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศโลก มีฐานอยู่ที่ซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ความไม่ธรรมดาของกาแฟที่มีชื่อเรียกว่า Beanless Brew หรือ Molecular Coffee เป็นการผลิตกาแฟที่ไม่ต้องใช้เมล็ดกาแฟในการปลูกแม้แต่เมล็ดเดียว
แคลิฟอร์เนียได้ผ่านกฎหมายที่มีความทะเยอทะยานในการลดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งอย่างมีนัยสำคัญ กลายเป็นรัฐแรกในสหรัฐอเมริกาที่ดำเนินการในเรื่องนี้ โดยที่ผ่านมาเรียกได้ว่ารัฐแคลิฟอร์เนียได้ต่อสู้เรื่องขยะพลาสติกมาอย่างโดดเด่น
เชื่อว่ามีพลาสติกมากกว่า 5 ล้านล้านชิ้นอยู่ในมหาสมุทรของโลก และไม่มีใครตอบได้ว่ามันจะสลายตัวหรือหายไปเมื่อไหร่ นั่นเพราะมนุษย์ผลิต ใช้และทิ้งพลาสติกทุกวัน โดยในแต่ละปีมีการผลิตพลาสติกมากถึง 400 ล้านตัน และ 40% เป็นพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
ญี่ปุ่นขอให้ประชาชน 37 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในโตเกียวและเมืองรอบ ๆ ใช้ไฟฟ้าให้น้อยลง เนื่องจากเกิดคลื่นความร้อนที่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยพบว่าในบางพื้นที่ของประเทศอาจมีอุณหภูมิสูงทะลุ 40 องศาเซลเซียส