จับตา ‘พายุไต้ฝุ่นวิภา’ ถล่มเอเชีย ฮ่องกงเตือนภัยระดับ 10

“พายุไต้ฝุ่นวิภา” ทวีกำลังเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง ส่งผลกระทบรุนแรงต่อฮ่องกง จีน และเวียดนาม ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และการคมนาคมหยุดชะงัก คาดขึ้นฝั่งกวางตุ้ง 21 ก.ค. 2568 ทำให้ไทยเผชิญฝนตกหนัก และเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน

 

 

พายุไต้ฝุ่นวิภา เริ่มก่อตัวจากหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลฟิลิปปินส์ และพัฒนาเป็นพายุโซนร้อนเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม โดยมีชื่อเรียกในฟิลิปปินส์ว่า “Crising” ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางอยู่ที่ 50-55 น็อต (ประมาณ 93-102 กม./ชม.) และความกดอากาศ 979-984 เฮกโตปาสกาล พายุเคลื่อนจากฟิลิปปินส์ผ่านทะเลจีนใต้ เข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย และคาดว่าจะขึ้นฝั่งบริเวณคาบสมุทรเหลย์โจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ในวันที่ 21 กรกฎาคม ก่อนเคลื่อนต่อไปยังเวียดนามตอนบนและอ่อนกำลังลง

 

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2568 พายุวิภาทวีกำลังเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง ส่งผลให้ฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุเป็นระดับ 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี มีการยกเลิกเที่ยวบินกว่า 500 เที่ยว รถไฟและเรือหยุดให้บริการ เกิดคลื่นสูง 3 เมตร และน้ำท่วมฉับพลันในบางพื้นที่

 

พายุไต้ฝุ่นวิภา ทำให้ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาว และเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรง ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคกลาง, ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระหว่างวันที่ 22-24 กรกฎาคม 2568 มีความเสี่ยงต่อน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะในพื้นที่ลาดเชิงเขาและที่ลุ่ม.

พายุไต้ฝุ่นวิภา: ที่มาและผลกระทบ

 

“วิภา” (Wipha) เป็นชื่อที่ใช้ตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อนในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ โดย ประเทศไทย เป็นผู้ส่งชื่อนี้ให้กับคณะกรรมการไต้ฝุ่นขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (ESCAP/WMO Typhoon Committee) ซึ่งมีสมาชิก 14 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย, จีน, ญี่ปุ่น, และฟิลิปปินส์ เป็นต้น

 

คำว่า “วิภา” ในภาษาไทยมีความหมายว่า แสงสว่าง, ความสุกใส, หรือความงดงาม และอยู่ในรายชื่อชุดที่ 2 ลำดับที่ 12 ของรายชื่อพายุที่ใช้หมุนเวียนในภูมิภาคนี้.

 

ชื่อนี้ถูกใช้สำหรับพายุหลายครั้งในอดีตและปัจจุบัน เช่น ในปี พ.ศ. 2544, 2550, 2556, 2562 และล่าสุดในปี 2568.

 

ภาพรวมของพายุไต้ฝุ่นวิภา

 

พายุไต้ฝุ่นวิภาเป็นชื่อที่ถูกใช้สำหรับพายุหมุนเขตร้อนหลายครั้งในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก โดยแต่ละครั้งมีความรุนแรงและผลกระทบที่แตกต่างกันไป

 

พายุไต้ฝุ่นวิภาปี 2550 ก่อตัวจากหย่อมความกดอากาศต่ำเมื่อวันที่ 15 กันยายน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของนาฮะ จังหวัดโอกินาวะ ประเทศญี่ปุ่น พัฒนาเป็นพายุโซนร้อนและทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่นในวันรุ่งขึ้น มีตาพายุชัดเจนและถึงจุดสูงสุดในวันที่ 18 กันยายน ด้วยความเร็วลม 215 กม./ชม. และความกดอากาศ 900 เฮกโตปาสกาล.

 

  • จีน: พายุขึ้นฝั่งที่เมืองฝูดิง บริเวณชายแดนมณฑลฝูเจี้ยนและเจ้อเจียง ด้วยความเร็วลม 195 กม./ชม. ส่งผลให้มีการอพยพประชาชนกว่า 2.7 ล้านคน โดยเฉพาะในเซี่ยงไฮ้และมณฑลเจ้อเจียง ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม มีผู้เสียชีวิต 5 ราย สูญหาย 3 ราย และบ้านเรือนเสียหายเกือบ 2,500 หลัง.
  • ไต้หวัน: พายุอ่อนกำลังลงเมื่อกระทบภูมิประเทศที่เป็นภูเขาของไต้หวันก่อนขึ้นฝั่งจีน.
  • เกาหลีเหนือ: พายุอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อนและสลายตัวนอกชายฝั่งเกาหลีเหนือ.

 

ถือเป็นพายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดที่พัดถล่มจีนนับตั้งแต่พายุไต้ฝุ่นซาวมาย (พ.ศ. 2549) และเป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุดในโลกในปีนั้น เทียบเท่าพายุไต้ฝุ่นเซอปัตและพายุไซโคลนจอร์จ.

พายุวิภา

พายุไต้ฝุ่นวิภา (พ.ศ. 2544) เป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 1 ที่มีผลกระทบต่อญี่ปุ่น โดยมีความรุนแรงน้อยกว่าปี 2550 และส่วนใหญ่เคลื่อนตัวในทะเล ความเสียหายจำกัดอยู่ในญี่ปุ่น และไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรง.

 

พายุโซนร้อนวิภา (พ.ศ. 2562) เป็นพายุโซนร้อนที่ก่อตัวในทะเลจีนใต้ และมีความรุนแรงน้อยกว่าพายุไต้ฝุ่นในปี 2550 ส่งผลกระทบต่อเวียดนามและจีนตอนใต้ ทำให้ฝนตกหนักและน้ำท่วมในพื้นที่ชายฝั่งของเวียดนามและจีน.

 

การตั้งชื่อพายุและบริบทชื่อพายุในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือถูกกำหนดโดยกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) เมื่อพายุมีความรุนแรงถึงระดับพายุโซนร้อน (ความเร็วลมอย่างน้อย 63 กม./ชม.) โดยใช้รายชื่อที่สมาชิก 14 ประเทศส่งมา ประเทศไทยส่งชื่อ “วิภา” รวมถึงชื่ออื่นๆ เช่น ขนุน, บัวลอย, และพระพิรุณ เพื่อสะท้อนวัฒนธรรมและภาษาท้องถิ่น.

 

อย่างไรก็ตาม ฟิลิปปินส์จะตั้งชื่อของตนเองสำหรับพายุที่เคลื่อนเข้าสู่พื้นที่รับผิดชอบ เช่น พายุวิภาในปี 2568 ถูกเรียกว่า “Crising” ในฟิลิปปินส์.

 

 

อ้างอิง : กรมอุตุนิยมวิทยา

 

 

 

Related posts

‘เชียงใหม่’ ผงาด อันดับ 2 เมืองที่ดีที่สุดในโลก 2025

สะพานเชื่อมระบบนิเวศ ‘เขาอ่างฤาไน-เขาชะเมา’ ลดขัดแย้ง คน-ช้าง

ใบตองแทนฟอยล์ นวัตกรรมรักษ์โลกจากร้านเสริมสวย