ครม.ไฟเขียว ‘NDC 3.0’ ไทยลดก๊าซเรือนกระจก 47% ภายในปี 2578

Reduce CO2 emission concept in the hand with icons, global warming for environmental.Net zero and carbon neutral concept.

ครม.เห็นชอบ NDC 3.0 ยกระดับเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกของไทย ภายในปี 2578 มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593

นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (Nationally Determined Contribution: NDC) ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2 หรือ NDC 3.0 ซึ่งเป็นกรอบเป้าหมายระยะ 10 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2574 ถึง 2578 ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ให้สอดคล้องกับพันธกรณีภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) และความตกลงปารีส (Paris Agreement)

NDC 3.0 คือแผนปฏิบัติการระดับชาติฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2 ต่อจาก NDC 1.0 ในปี 2558 และ NDC 2.0 ในปี 2564 โดยยกระดับความทะเยอทะยานอย่างมีนัยสำคัญ กำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เหลือไม่เกิน 152 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายในปี 2578 คิดเป็นการลดลงร้อยละ 47 จากระดับปีฐาน 2562 ซึ่งสูงกว่าฉบับก่อนหน้า ที่ตั้งเป้าเพียงร้อยละ 20–25 พร้อมมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) เพื่อร่วมจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส

แผนนี้ครอบคลุม 5 สาขาหลัก ได้แก่ พลังงานและคมนาคม อุตสาหกรรม เกษตร ของเสีย และป่าไม้–การใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยร้อยละ 70 จะดำเนินการด้วยศักยภาพภายในประเทศ ส่วนอีกร้อยละ 30 ขอรับการสนับสนุนด้านเทคนิคและการเงินจากต่างประเทศ

รัฐบาลภายใต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อน ยืนยันจุดยืนของไทยในการร่วมแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศโลก การเห็นชอบ NDC 3.0 จะช่วยยกระดับบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ เสริมความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติ และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลข้อที่ 13 “สิ่งแวดล้อมยั่งยืน เศรษฐกิจสีเขียว” ที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพิ่มพื้นที่สีเขียว และสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อให้การพัฒนาเศรษฐกิจเติบโตควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุลและยั่งยืน

ทั้งนี้ NDC 3.0 มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อร่วมจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความตกลงปารีส โดยเอกสารฉบับเต็มจะจัดทำและยื่นต่อ UNFCCC ภายในปี 2568

Related posts

เขื่อนภูมิพลมีโอกาสเสี่ยงล้น ฝนถล่มหนักต่อเนื่องถึง 10 พ.ย.

กรมประมงปลดล็อก เพาะ ‘หอยแครง’ สำเร็จ ลดพึ่งพาธรรมชาติ

1 พ.ย. ‘วันนิเวศวิทยาโลก’ คืนสมดุลให้โลก กับการท่องเที่ยวเชิงยั่งยืน