Climate Change
-
สัตว์ที่น่ารักที่สุดอันดับหนึ่งของทวีปแอนตาร์กติกา อาจช่วยกอบกู้โลกได้ ผลการศึกษาล่าสุด พบว่าแอมโมเนียที่ปล่อยออกมาจาก “มูลเพนกวิน” อาจช่วยก่อตัวเป็นเมฆที่ช่วยรักษาโลกและป้องกันไม่ให้น้ำแข็งในทะเลละลาย ในทวีปแอนตาร์กติกาที่หนาวเย็นและห่างไกล สัตว์ที่น่ารักอย่าง “เพนกวิน” อาจเป็นกุญแจสำคัญในการชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผลการศึกษาล่าสุด ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Communications Earth & Environment เผยว่า แอมโมเนียที่ปล่อยออกจากมูลเพนกวิน สามารถช่วยก่อตัวเป็นเมฆที่สะท้อนแสงแดด ช่วยลดความร้อนและชะลอการละลายของน้ำแข็งในทะเล และธารน้ำแข็งในภูมิภาคนี้ การค้นพบนี้ไม่เพียงแสดงถึงความเชื่อมโยงอันน่าทึ่งระหว่างระบบนิเวศและสภาพภูมิอากาศ แต่ยังเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของแอนตาร์กติกาในการรักษาเสถียรภาพของโลก โรงงานเมฆจากมูลเพนกวิน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ …
-
เมื่อธารน้ำแข็ง Birch ในสวิตเซอร์แลนด์ถล่ม ฝังหมู่บ้าน Blatten ที่มีประชากร 300 คน ภัยพิบัติครั้งนี้สะท้อนผลกระทบรุนแรงของภาวะโลกร้อน ที่ทำให้ธารน้ำแข็งในเทือกเขาแอลป์ละลาย และเพอร์มาฟรอสต์เสื่อมสภาพ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งใหญ่ในหมู่บ้าน Blatten ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขา Lötschental ทางตอนใต้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อธารน้ำแข็ง Birch ที่ตั้งอยู่เหนือหมู่บ้านถล่มลงมา ส่งผลให้เกิดดินถล่มผสมผสานกับน้ำแข็ง โคลน และหิน ฝังกลบหมู่บ้านที่มีประชากรประมาณ 300 คนเกือบทั้งหมด เหตุการณ์นี้สร้างความเสียหายอย่างหนัก …
-
ทำไม “อโวคาโด” ผลไม้ซูเปอร์ฟู้ด ที่ได้รับความนิยมสูง และกำลังเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่เติบโต จึงมาพร้อมต้นทุนสิ่งแวดล้อม โดยถูกตราหน้าว่า เป็นตัวการทำโลกร้อน อะโวคาโดได้รับการยกย่องว่าเป็น “ซูเปอร์ฟู้ด” ที่อุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น วิตามินอี วิตามินซี โพแทสเซียม และไขมันดีที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจและระบบย่อยอาหาร ด้วยรสชาติที่เข้มข้นและเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล อะโวคาโดกลายเป็นที่นิยมทั่วโลก ตั้งแต่เมนูอะโวคาโดโทสต์ไปจนถึงกัวคาโมเล่ในร้านอาหาร แต่ผลไม้สีเขียวที่อร่อยและเป็นที่นิยมอย่างอะโวคาโด กำลังเผชิญกับข้อถกเถียงในด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แม้ว่าจะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพและอุดมด้วยสารอาหาร แต่การผลิตและการขนส่งอะโวคาโด ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อโลก …
-
แผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์และแอนตาร์กติกากำลังละลายอย่างรวดเร็ว แม้ภาวะโลกร้อนจะถูกจำกัดที่ 1.5 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างรุนแรง คุกคามชายฝั่งทั่วโลกและนำไปสู่วิกฤตการอพยพครั้งใหญ่ในอนาคตอันใกล้ ผลการวิจัยล่าสุด เผยให้เห็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับอนาคตของแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์และแอนตาร์กติกา ซึ่งกำลังเผชิญกับการละลายอย่างรวดเร็ว แม้ว่ามนุษยชาติจะสามารถจำกัดภาวะโลกร้อนให้อยู่ที่ 1.5 องศาเซลเซียสตามเป้าหมายสากลก็ตาม การละลายนี้จะนำไปสู่ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดการอพยพครั้งใหญ่จากพื้นที่ชายฝั่งทั่วโลก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เรียกว่า “หายนะ” ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติได้ทำการศึกษาอย่างละเอียด เพื่อกำหนด “ขีดจำกัดที่ปลอดภัย” ของภาวะโลกร้อนที่ยังสามารถรักษาเสถียรภาพของแผ่นน้ำแข็งทั้งสองนี้ได้ โดยอาศัยข้อมูลจากดาวเทียม โมเดลสภาพอากาศ แกนน้ำแข็ง ตะกอนใต้ท้องทะเลลึก และแม้แต่ดีเอ็นเอของปลาหมึกยักษ์เพื่อย้อนรอยประวัติศาสตร์สภาพภูมิอากาศในอดีต …
-
วิกฤตสภาพอากาศ ภัยคุกคามต่ออนาคตของกล้วย ผลไม้ยอดนิยมของโลก รายงานระบุ ภายในปี 2080 พื้นที่ปลูกกล้วยเกือบสองในสามในละตินอเมริกาและแคริบเบียน แหล่งผลิตกล้วยส่งออกหลักของโลก อาจไม่มีอีกต่อไป กล้วย ผลไม้ที่คนทั่วโลกชื่นชอบ กำลังเผชิญภัยคุกคามร้ายแรงจากวิกฤตสภาพอากาศ รายงานล่าสุดจาก Christian Aid ชื่อ Going Bananas: How Climate Change Threatens the World’s Favourite Fruit เผยว่า ภายในปี 2080 พื้นที่ปลูกกล้วยเกือบสองในสามในละตินอเมริกาและแคริบเบียน …
-
โลกร้อน-การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กระตุ้น “เรนบอมบ์” (rain bomb) ปรากฏการณ์ฝนกระหน่ำจากฟ้า ที่เปรียบได้กับการเทน้ำจากถังขนาดยักษ์ลงสู่พื้นในเวลาอันสั้น “ลานินญาจากไป แต่ฝากฝนไว้ทิ้งท้าย ตอนนี้โลกอยู่ในภาวะเป็นกลาง แต่ยุคโลกร้อน อาจเจอ rain bomb ตูมเดียวท่วม เตรียมรับมือไว้บ้างนะครับ” เป็นคำเตือนจาก อ.ธรณ์ ธํารงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรนบอมบ์: ปรากฏการณ์ฝนกระหน่ำจากฟ้าในยุคโลกร้อน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คำว่า “เรนบอมบ์” (Rain Bomb) ได้กลายเป็นคำที่ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายในสื่อและวงการอุตุนิยมวิทยา โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์ฝนตกหนักอย่างฉับพลันและรุนแรง …