ไทยเสี่ยงน้ำท่วม-ภัยแล้ง ‘ลานีญา’ แรงสุด ม.ค. 69 ก่อนพลิกเป็นเอลนีโญ

Global warming, Climate change El Nino and La Nina. Polar Vortex crisis weather extreme heat and cold affect concept. element from NASA

ผู้เชี่ยวชาญเตือน ไทยต้องเผชิญกับความผันผวนขั้นรุนแรง โดยปรากฏการณ์ “ลานีญา” ที่ทำให้เกิดฝนตกหนัก กำลังจะรุนแรงถึงขีดสุดในเดือนมกราคม 2569 ก่อนที่ค่า ENSO จะพลิกขั้วอย่างรวดเร็วเข้าสู่ภาวะ “เอลนีโญ” ในช่วงกลางปี

รายงานจาก Climate Impact Company ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มสภาพอากาศรายเดือนที่สำคัญ โดยระบุว่าปรากฏการณ์ ENSO (El Niño-Southern Oscillation) กำลังเข้าสู่ช่วงที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

ลานีญาถึงจุดสูงสุดและการสลายตัวอย่างรวดเร็ว

ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับปรากฏการณ์ ลานีญาอ่อน ซึ่งคาดการณ์ว่า กำลังจะทวีกำลังแรงขึ้นเล็กน้อยและจะถึงจุดสูงสุดในช่วงเดือนมกราคม 2569 หลังจากนั้น ปรากฏการณ์จะสลายตัวอย่างรวดเร็ว และมีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ปรากฏการณ์ เอลนีโญ ในช่วงกลางปี 2569

อย่างไรก็ตาม แม้ลานีญาจะดูเหมือนคงอยู่จนถึงปลายปี 2568 แต่การปรากฏของ ปรากฏการณ์แมดเดน-จูเลียน ออสซิลเลชัน (MJO) ในขณะนี้ จะเข้ามาทำลายความต่อเนื่องของลานีญาในช่วงกลางถึงปลายไตรมาสที่ 1/2569 โดย MJO ที่กำลังดำเนินอยู่จะช่วยส่งเสริมให้น้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณเส้นศูนย์สูตรใต้ผิวดินอุ่นขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงและศักยภาพของการเกิดเอลนีโญภายในกลางปี 2569

อิทธิพลของคลื่นความร้อนในทะเลและภาวะโลกร้อน

นอกจากปัจจัย ENSO และ MJO แล้ว คลื่นความร้อนในทะเล (Marine Heatwaves – MHW) ก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อสภาพภูมิอากาศในระดับภูมิภาค โดยส่วนใหญ่แล้วจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะโลกร้อนที่ผิดปกติ และเหตุการณ์ฝนตกหนักที่มีผลกระทบสูง

การวิเคราะห์รูปแบบ SSTA (Sea Surface Temperature Anomalies) ทั่วโลก ณ ต้นเดือนพฤศจิกายน แสดงให้เห็นการเริ่มต้นของลานีญาอ่อนและภาวะไดโพลมหาสมุทรอินเดียเชิงลบ (-IOD) ที่ทวีความรุนแรงขึ้น รูปแบบ SSTA เขตร้อนนี้เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อระบบความเร็วแนวดิ่งทั่วโลก ซึ่งเขตพาความร้อนจะมีแนวโน้มความชื้นมากกว่าปกติ ในขณะที่เขตทรุดตัวจะแห้งแล้งกว่าปกติ MHW ในละติจูดกลาง/กึ่งเขตร้อนยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ SSTA ทั่วโลกสูงขึ้น

การคาดการณ์ SSTA โดยกลุ่มตัวอย่างหลายรูปแบบระหว่างประเทศ (IMME) สนับสนุนแนวคิดที่ว่าลานีญาจะถึงจุดสูงสุดในเดือนมกราคม พร้อมกับการเปลี่ยนผ่านของ IOD สู่เฟสกลาง

คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญไทย: อย่าประมาทลานีญาและเตรียมรับมือเอลนีโญ

ในประเด็นนี้ อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ย้ำว่า แม้ฝนทางภาคใต้จะลดลงบ้าง แต่ก็ไม่ควรประมาท เพราะค่า ENSO ได้ย้อนกลับมาเป็นลานีญาอีกรอบ ตั้งแต่ปลายปีนี้ไปจนถึงต้นปีหน้า ทำให้เกิดภาวะที่ฝนยังคงตกหนักต่อเนื่องยาวนาน แม้จะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วก็ตาม

อาจารย์เจษ ได้ย้ำคำเตือนของ อาจารย์ สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ว่า แม้ลานีญาที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะอยู่ในระดับอ่อนๆ โดยมีค่าดัชนี ENSO ไม่เกิน -0.5 ทำให้ฝนตกเพิ่มขึ้นเพียง 10-15% แต่สถานการณ์น้ำท่วมหนักก็ยังคงเกิดขึ้นได้ ดังเช่นที่เกิดขึ้นที่หาดใหญ่ในปีนี้ ซึ่งคล้ายกับเหตุการณ์ลานีญาปี 2554 โดยเกิดจากร่องฝนที่แช่ตัวอยู่นานหลายวัน ทำให้มีฝนตกหนักมากเฉพาะพื้นที่

อาจารย์ สธน ชี้ให้สังเกตว่า หากกรุงเทพฯ มีอากาศหนาว ภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีสิทธิเกิดน้ำท่วมได้สูง เนื่องจากกระแสลมพัดข้ามอ่าวไทยนำความชื้นจำนวนมากลงไปปะทะภูเขา ดังนั้น ในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคมนี้ จึงยังคงมีโอกาสเกิดพายุใหญ่หรือฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรเร่งบรรเทาความเดือดร้อนและเตรียมรับมือฝนระลอกใหม่ด้วย

สิ่งที่น่าเป็นกังวลยิ่งกว่าคือ คำทำนายล่วงหน้าของค่า ENSO ในปีหน้า 2569 ซึ่งมีแนวโน้มที่จะพลิกกลับไปเกิด “เอลนีโญ” ในช่วงกลางปี โดยการคาดการณ์แบบอะนาล็อกโดยบริษัท Climate Impact คาดการณ์ไว้สำหรับเดือนมิถุนายน/กรกฎาคม/สิงหาคม 2569 ซึ่งจะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนเป็นการรับมือกับ “ภัยแล้ง” แทน ผู้เชี่ยวชาญจึงฝากเตือนว่า อย่าตื่นตระหนกกับน้ำท่วมในปีนี้จนรีบพร่องน้ำทั้งหมด ซึ่งอาจส่งผลให้ไม่เหลือน้ำกินน้ำใช้เมื่อเข้าสู่ภาวะภัยแล้งในปีหน้า

อ้างอิง :

Related posts

‘ฝุ่นพิษ PM2.5’ วิกฤต กทม.แดงทั้ง 50 เขต GISTDA ถอดบทเรียนปี 67

น้ำท่วมใต้ ‘สุชาติ’ สั่งเฝ้าระวัง โลมาอิรวดีสงขลา เสี่ยงเกยตื้น

ไทยเสี่ยงสูงขึ้น พุ่งติดอันดับ 17 ภัยพิบัติ ‘สภาพอากาศสุดขั้ว’