20 กันยายน “วันอนุรักษ์และรักษาคูคลองแห่งชาติ” เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของคูคลอง ในฐานะทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าต่อชีวิต และสิ่งแวดล้อม
วันที่ 20 กันยายนของทุกปี ถือเป็น วันอนุรักษ์และรักษาคูคลองแห่งชาติ ในประเทศไทย วันนี้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของคูคลองในฐานะทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันดูแลรักษาความสะอาดและความสมบูรณ์ของแหล่งน้ำเหล่านี้ เพื่อให้คูคลองยังคงเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชุมชน และระบบนิเวศอย่างยั่งยืน
ยุคเริ่มต้น: คูคลอง
ในสมัยโบราณ คูคลองในประเทศไทยมีรากฐานย้อนไปถึงสมัยโบราณ โดยเฉพาะในยุคที่อารยธรรมลุ่มน้ำเจ้าพระยาเริ่มก่อตัว หลักฐานทางโบราณคดี เช่น เมืองโบราณในสมัยทวารวดี (ราวพุทธศตวรรษที่ 11-16) แสดงให้เห็นถึงการขุดคูคลองเพื่อใช้ในการเกษตรและป้องกันน้ำท่วม รวมถึงเป็นกำแพงเมืองเพื่อความมั่นคง เช่น คูเมืองที่พบในเมืองโบราณนครปฐม หรือเมืองคูบัวในสมัยสุโขทัย (พุทธศตวรรษที่ 18-20) การจัดการน้ำเริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้น คูคลองถูกขุดเพื่อใช้ในการชลประทานและระบายน้ำ ช่วยให้การเพาะปลูกข้าวเจริญรุ่งเรือง ซึ่งเป็นรากฐานของความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจในยุคนั้น ตัวอย่างที่ชัดเจนคือระบบคูคลองรอบเมืองสุโขทัยที่ใช้ทั้งเพื่อการเกษตรและการป้องกันเมือง
ความสำคัญของคูคลอง
คูคลองในประเทศไทย มีบทบาทสำคัญทั้งในด้านเกษตรกรรม การคมนาคม การจัดการน้ำ และการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ ตั้งแต่อดีต คูคลองถูกขุดขึ้นเพื่อใช้ในการชลประทาน ระบายน้ำ และเป็นเส้นทางสัญจรของชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและภาคกลาง คูคลองยังเป็นแหล่งน้ำสำหรับการเกษตร ช่วยให้เกษตรกรมีน้ำใช้ในการเพาะปลูก ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกผลผลิตทางการเกษตรชั้นนำของโลก
นอกจากนี้ คูคลองยังเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด ทั้งพืชและสัตว์น้ำ ซึ่งมีส่วนช่วยรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน คูคลองหลายแห่งเผชิญปัญหาการปนเปื้อนจากขยะ น้ำเสีย และการบุกรุกพื้นที่ ทำให้คุณภาพน้ำและความอุดมสมบูรณ์ลดลง ส่งผลกระทบต่อทั้งมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
ที่มาของวันอนุรักษ์และรักษาคูคลองแห่งชาติ
วันอนุรักษ์และรักษาคูคลองแห่งชาติ 20 กันยายน ถูกกำหนดขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2537 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของคูคลอง และร่วมกันปกป้อง ฟื้นฟู และรักษาความสะอาดของแหล่งน้ำ วันนี้ยังเป็นการระลึกถึงความสำคัญของคูคลองในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทย รวมถึงการกระตุ้นให้เกิดการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน