‘กระเช้าภูกระดึง’ ท่องเที่ยวที่ยั่งยืน หรือ ทำลายธรรมชาติ

ปัดฝุ่น “กระเช้าภูกระดึง” พันล้าน เสียงแตก เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน หรือ ทำลายธรรมชาติ คนในพื้นที่บางส่วน หวั่นระบบนิเวศบนภูกระดึงเปลี่ยนแปลงไปอย่างถาวร

“ภูกระดึง” อุทยานแห่งชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของธรรมชาติและการเดินป่าที่ท้าทายใน จ.เลย เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติ แต่ด้วยความสูงกว่า 1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทำให้การเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขาที่ใช้เวลานานหลายชั่วโมง อาจเป็นอุปสรรคสำหรับบางคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีข้อจำกัดด้านร่างกาย

กว่า 40 ปี ที่แนวคิดสร้าง “กระเช้าภูกระดึง” ถูกพูดถึงแต่ยังไม่เกิดขึ้น จนล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาฯ ประกาศเดินหน้าโครงการ และไทม์ไลน์ 8 ขั้นตอน หวังก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2570  แต่ก็มาพร้อมกับข้อถกเถียงในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมการท่องเที่ยวแบบดั้งเดิม

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

ความเป็นมาของแนวคิดกระเช้าภูกระดึง

แนวคิดการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง ถูกเสนอครั้งแรกเมื่อหลายสิบปีก่อน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสความงามของยอดภูกระดึง โดยไม่ต้องเผชิญกับการเดินป่าที่หนักหน่วง กระเช้าจะช่วยลดระยะเวลาและความเหนื่อยล้าในการเดินทางจากตีนเขาไปยังยอดเขา ซึ่งปกติใช้เวลา 4-6 ชั่วโมงสำหรับระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร โดยเฉพาะในช่วงผาลัดดาและผาหมากดูก ซึ่งเป็นจุดที่ท้าทายที่สุด

ในปี 2568 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีการศึกษาและหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของโครงการนี้อีกครั้ง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ครอบคลุม (inclusive tourism) เพื่อให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย สามารถเข้าถึงความงามของภูกระดึงได้ นอกจากนี้ กระเช้ายังถูกคาดหวังว่า จะช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่นผ่านการจ้างงานและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

ข้อดีของกระเช้าภูกระดึง

  • การเข้าถึงที่ง่ายขึ้น: กระเช้าจะทำให้ภูกระดึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนสามารถเยี่ยมชมได้ โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่สามารถเดินป่าได้ ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ครอบคลุมทุกกลุ่ม
  • กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น: การก่อสร้างและการดำเนินงานของกระเช้าจะสร้างงานให้กับคนในพื้นที่ เช่น ลูกหาบ มัคคุเทศก์ และพนักงานบริการ รวมถึงกระตุ้นการค้าขายของที่ระลึกและอาหารท้องถิ่น
  • ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ: การเดินป่าบนเส้นทางที่ชันและลื่นอาจนำไปสู่อุบัติเหตุ กระเช้าจะช่วยลดความเสี่ยงนี้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน
  • การจัดการนักท่องเที่ยว: กระเช้าสามารถควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวที่ขึ้นสู่ยอดเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาการท่องเที่ยวหนาแน่นเกินไปในบางช่วงเวลา

แต่อย่างไรก็ตาม โครงการกระเช้าภูกระดึง ไม่ได้ปราศจากข้อถกเถียง โดยเฉพาะในมิติของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบดั้งเดิม หลายคนกังวลถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะการก่อสร้างกระเช้า อาจรบกวนระบบนิเวศของภูกระดึง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์ป่าหายาก เช่น กวางป่าและนกนานาชนิด การตัดไม้ หรือปรับพื้นที่อาจส่งผลต่อความสมดุลของธรรมชาติ

  • เปลี่ยนแปลงประสบการณ์การท่องเที่ยว: ภูกระดึงมีชื่อเสียงจากความท้าทายของการเดินป่าและความรู้สึกของความสำเร็จเมื่อถึงยอดเขา การมีกระเช้าอาจทำให้เสน่ห์ของการพิชิตภูกระดึงลดลง
  • ผลกระทบต่อลูกหาบ: ลูกหาบเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมการท่องเที่ยวภูกระดึง การมีกระเช้าอาจลดความต้องการใช้บริการลูกหาบ ส่งผลต่อรายได้ของคนในชุมชน
  • ต้นทุนและการบำรุงรักษา: โครงการกระเช้ามีค่าใช้จ่ายสูงทั้งในการก่อสร้างและบำรุงรักษา รวมถึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในระยะยาว

ข้อถกเถียงการสร้างกระเช้าภูกระดึง

มุมมองที่หลากหลายจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

เสียงสนับสนุน: การท่องเที่ยวที่ครอบคลุมและเศรษฐกิจท้องถิ่น

นางสาวสุมันตา ยอดพยุง เจ้าของร้านพริกศรีโตเกียวในตัวเมืองเลย เห็นด้วยกับการสร้างกระเช้า โดยมองว่าเป็นทางเลือกที่เพิ่มโอกาสให้กับนักท่องเที่ยวที่ไม่สามารถเดินป่าได้ เช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีข้อจำกัดทางร่างกาย เธอเสนอว่าควรมีการก่อสร้างที่มีมาตรฐานและปลอดภัย พร้อมทั้งยังคงให้ทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเดินป่า เพื่อรักษาประสบการณ์ดั้งเดิมของภูกระดึง เธอระบุว่า หากมีโอกาส เธอเองก็อยากลองเดินขึ้นภูกระดึงก่อนใช้กระเช้า เพื่อสัมผัสประสบการณ์แบบดั้งเดิม

เสียงคัดค้าน: มนต์เสน่ห์และระบบนิเวศที่อาจสูญเสีย

ในทางตรงกันข้าม นางกัลยรักษ์ อัครเลิศศักดิ์ นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่า คัดค้านการสร้างกระเช้า โดยให้เหตุผลว่ามนต์เสน่ห์ของภูกระดึงอยู่ที่การเดินป่าที่ท้าทายและความรู้สึกถึงความสำเร็จเมื่อถึงยอดเขา เธอกังวลว่ากระเช้าจะทำลายระบบนิเวศและลดความน่าสนใจของภูกระดึงลง แม้ว่ากระเช้าอาจดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นในช่วงแรก แต่ในระยะยาว ความดึงดูดอาจลดลงเมื่อประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์สูญหาย และอาจนำไปสู่การสูญเสียระบบนิเวศและสัตว์ป่าบนภูกระดึง

นางสาวแสงระวี ดาปะ ผู้ประสานงานสมัชชาสุขภาพจังหวัดเลย ซึ่งเป็นคนในพื้นที่อำเภอภูกระดึง เสริมว่า แม้เทคโนโลยีสมัยใหม่จะช่วยลดผลกระทบจากการก่อสร้างได้ แต่การเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศยังคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ การตั้งเสากระเช้าและการก่อสร้างจะรบกวนธรรมชาติอย่างถาวร โดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่อาจฟื้นฟูได้ นอกจากนี้ การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวอาจเกินขีดความสามารถของธรรมชาติในการรองรับ ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำเสียและขยะบนยอดเขา ซึ่งภูกระดึงไม่มีระบบบำบัดของเสียที่เหมาะสม สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่อาจเผชิญความยากลำบากในการปรับตัวเมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป

โครงการกระเช้าภูดึง

ยิ่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยถึงแผนระยะที่ 2 ซึ่งรวมถึงการให้บริการรถรางไฟฟ้าขนาดเล็กบนยอดภูกระดึง โดยจะปรับเส้นทางด้วยคอนกรีตหรือดินเพื่อให้รถวิ่งได้ แต่ไม่สร้างถนนถาวรเพื่อคงความกลมกลืนกับธรรมชาติ แนวคิดนี้ถูกวิจารณ์ว่า อาจยิ่งเพิ่มผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การท่องเที่ยวให้ห่างไกลจากความเป็นธรรมชาติมากขึ้น

โครงการกระเช้าภูกระดึง เป็นนวัตกรรมที่อาจเปลี่ยนโฉมการท่องเที่ยวของภูกระดึงให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม การพัฒนาจะต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศ มนต์เสน่ห์ของการเดินป่า และวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น การรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายและการวางแผนอย่างรอบคอบจะเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้กระเช้าภูกระดึงเป็นตัวอย่างของการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ซึ่งผสมผสานความสะดวกสบายของเทคโนโลยีเข้ากับการอนุรักษ์ธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลงตัว

Related posts

เปิดตัว ‘เครื่องสแกนทุเรียน’ ผสาน CT-Scan และ AI คัดทุเรียนใน 3 วินาที

ธารน้ำแข็ง Birch ในสวิตเซอร์แลนด์ ถล่ม ภัยพิบัติจากภาวะโลกร้อน

นักวิทย์พบ ‘ทองคำ’ ในหินภูเขาไฟ มาจากแกนโลก