Part 7 การปล่อยวางภาพลักษณ์
การปล่อยวางประการต่อมา คือ “การปล่อยวางภาพลักษณ์” พระไพศาล บอกว่า เวลาเจ็บป่วยภาพลักษณ์เราจะไม่เหมือนเดิม ถ้าเรายังยึดติดกับภาพลักษณ์ในอดีตที่ยังแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วยเราจะทุกข์มาก เมื่อร่างกายเรามันสวยงามไม่เนี๊ยบเหมือนเมื่อก่อน
หลายคนทำใจไม่ได้ที่ร่างกายผอม หรือว่าห่อเหี่ยว ไม่อยากให้ใครมาเยี่ยมเพราะว่าฉันไม่สวยเหมือนเมื่อก่อน อยากให้คนจำภาพเก่าเก่าของฉัน เวลาใครมาเยี่ยมก็เลยทุกข์ที่เขามาเห็นภาพที่ไม่สวยไม่งามเหมือนเมื่อก่อน ใจจริงไม่ได้ห่วงสายตาของคนอื่นเท่านั้น ตัวเองก็ยอมรับกับภาพลักษณ์ของตัวเองในตอนนี้ไม่ได้
วางมันลงเสีย ยอมรับตัวเองที่เป็น เวลาคนป่วยมันจะให้ปิ๊งจะให้ใสเหมือนตอนไม่ป่วยมันยาก มีบางคนบอกถ้าตายขอให้ตายอย่างสงบ และศพสีชมพูด้วยนะ ไปสนใจทำไมศพสีชมพู ความคิดแบบนี้มันทำให้ทุกข์เพราะร่างกายมันไม่เป็นไปอย่างที่เราคาดหวัง
ยอมรับซิ รวมทั้งเวลาป่วยกระทั่งช่วยตัวเองไม่ได้ก็อยากให้คนมาช่วยอาบน้ำ เช็ดตัว ใส่แพมเพิร์ส ให้ช่วยเวลาถ่ายปัสสาวะอุจจาระ แต่บางคนทุกข์มาก เพราะยอมรับสภาพตัวเองไม่ได้
มีฝรั่งคนหนึ่งตอนที่แกป่วยหนักมากๆ แกก็อยู่ในสภาพแบบนี้ ช่วยตัวเองไม่ได้ แล้วต้องมีคนอาบน้ำ ต้องมีคนมาช่วยเรื่องถ่ายอุจจาระปัสสาวะ ทีแรกแกทำใจไม่ได้เพราะแกเป็นคนที่ทำอะไรพึ่งตัวเองตลอดและการสูญเสียสิ่งที่สิ่งที่ฝรั่งเรียกว่า Autonomy สำหรับบางคนถือว่าเรื่องเสียศักดิ์ศรี
ตอนหลังแกทำใจได้ แกบอกว่าเวลาใครมาทำอย่างนี้ให้ ผมจะหลับตาพริ้มและมีความสุขอย่างเต็มที่ เหมือนกับตอนที่เป็นเด็ก แล้วก็มีแม่หรือผู้ใหญ่มาช่วยอาบน้ำเช็ดตัวให้ แกบอกว่าให้ระลึกถึงความสุขในวัยเด็ก แล้วก็ให้ Enjoy กับการที่มีคนมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวอาบน้ำให้เรา มีความสุขกับปัจจุบัน
แต่เราจะมีความสุขแบบนี้ไม่ได้ ถ้าเราติดในภาพลักษณ์ บางทีมันไม่ใช่เรื่องของภาพลักษณ์ที่เป็นรูปธรรม บางทีมันรวมถึงการที่เราเคยเป็นหัวหน้าครอบครัว การที่เราเคยช่วยตัวเองได้ การที่เราเคยเป็นเจ้านายผู้คน สุดท้ายก็มาเป็นอย่างนี้ป่วยช่วยตัวเองไม่ได้
ถ้าเราวางภาพลักษณ์เก่าๆ บทบาทเก่าๆ ที่เราเคยมี ยอมรับอย่างที่เราเป็น เราจะไม่ทุกข์และเรียนรู้ที่จะมีความสุขกับมัน เหมือนกับฝรั่งคนที่ว่า ที่เขารู้สึกกลับไปเป็นเด็ก ตอนเป็นเด็กพ่อแม่ช่วยอาบน้ำเช็ดตัวให้ เราสุขอย่างไรตอนนั้นก็ทำใจให้มีความสุขอย่างเดียวกัน
พ่อแม่ป่วยอัลไซเมอร์เขาคือคนใหม่ไปแล้ว
นี่เรียกว่า ปล่อยวางภาพลักษณ์ สถานะตัวตนเก่าๆ และจำเป็นสำหรับคนดูแลด้วย คนดูแลบางทีทำใจไม่ได้พ่อแม่เป็นอัลไซเมอร์ เขาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เปลี่ยนไปเป็นคนใหม่ ไม่สามารถเป็นเหมือนก่อนได้ พ่อที่เคยเข้มแข็งองอาจ แม่ที่เคยอ่อนโยนสุภาพ แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นคนใหม่ไปแล้ว
หลายคนทำใจไม่ได้ทุกข์มากเลย ไม่สามารถรักพ่อแม่อย่างที่เป็น เพราะไปติดภาพอดีต วางภาพอดีตลงและก็ยอมรับอย่างที่เขาเป็น รักอย่างที่เขาเป็น แล้วคุณจะพบว่า การดูแลพ่อแม่มันก็จะลำบากใจน้อยลง