จ๊ะโจ้ ศิลปินสาวจากเกาะสุกร จ.ตรัง พลิกเศษไม้เรือเก่าและขยะทะเลให้กลายเป็นงานศิลปะสุดสร้างสรรค์ ทั้งพวงกุญแจ ของที่ระลึก และเสื้อผ้าเพ้นท์ลายที่เล่าเรื่องราวท้องถิ่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวและลูกค้าทั่วไทย ด้วยแนวคิดอัพไซเคิลที่ยั่งยืน
จากขยะทะเลไร้ค่า สู่สินค้าที่มีเอกลักษณ์
ที่เกาะสุกร ตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นเกาะขนาดใหญ่ใกล้ชายฝั่งเพียง 3 กิโลเมตร และเป็นบ้านของชาวประมงกว่า 2,500 คน ที่ยังคงวิถีชีวิตเรียบง่ายด้วยอาชีพประมง ทำสวนยาง และเกษตรกรรมแบบอินทรีย์ “บ้านโจ้สตูดิโอ” ของนางสาวจิตติมา เจริญฤทธิ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “จ๊ะโจ้” ได้กลายเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้สนใจงานศิลปะ ด้วยการนำเศษไม้จากซากเรือเก่า ขยะทะเล และวัสดุเหลือใช้มาสร้างสรรค์เป็นชิ้นงานที่ไม่ซ้ำใคร
บ้านโจ้สตูดิโอเป็นสตูดิโอเล็กๆ ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 บ้านหาดทรายทอง แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันและความคิดสร้างสรรค์ จ๊ะโจ้ ศิลปินสาวชาวตรัง วัย 30 ต้นๆ ที่หลงใหลในศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ได้เริ่มต้นสตูดิโอนี้เมื่อปี 2563 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากวิถีชีวิตบนเกาะสุกร ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทะเลและธรรมชาติ แต่เผชิญปัญหาขยะจากทะเลจำนวนมาก เธอจึงเริ่มเก็บเศษไม้เรือเก่าที่ชาวบ้านเคยนำไปเผาทิ้ง มาวาดลายและเพ้นท์ให้กลายเป็นของใช้ประจำวัน เช่น พวงกุญแจ ของติดตู้เย็น รูปนก รูปบ้าน และตุ๊กตาเล็กๆ ที่สะท้อนเรื่องราวท้องถิ่น
นอกจากงานไม้แล้ว จ๊ะโจ้ยังเชี่ยวชาญด้านการเพ้นท์เสื้อผ้า กระเป๋า หมวก และกระจูด โดยใช้เทคนิค freestyle ที่ปรับตามความต้องการของลูกค้า ลายส่วนใหญ่ได้แรงบันดาลใจจากชีวิตบนเกาะ เช่น ทะเลใสๆ ควายในทุ่งนา แตงโมสดชื่น ดอกไม้ป่า และใบหญ้าที่ขึ้นตามชายหาด
“ฉันอยากให้งานศิลปะของฉันเล่าเรื่องเกาะสุกรให้คนภายนอกได้รู้จัก” จ๊ะโจ้เล่าด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เธอกำลังโชว์ฝีมือเพ้นท์ลายคลื่นทะเลลงบนเสื้อสีขาวอย่างบรรจง ในมุมหนึ่งของร้าน เธอกำลังลงสีบนเศษไม้ที่เคยถูกคลื่นซัดเกยตื้น เปลี่ยนจากขยะให้กลายเป็นงานศิลปะที่สวยงามและขายได้จริง
การอัพไซเคิลที่สร้างรายได้และชุมชนยั่งยืน
จ๊ะโจ้เริ่มจากเก็บวัสดุจากชายหาดและชาวบ้านบนเกาะที่หันมาสนับสนุน โดยแทนที่จะเผาเศษไม้เหล่านั้น ชาวบ้านกลับนำมาให้เธอเพื่อ “อัพไซเคิล” เป็นงาน handmade ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สินค้าของเธอมีราคาเริ่มต้นที่ 250 บาทสำหรับงานไม้ และ 150 บาทสำหรับเสื้อผ้าเพ้นท์ นอกจากนี้ ยังมีงานภาพวาดและคอลลาจจากเศษผ้าที่นำมาจัดวางอย่างสร้างสรรค์ สร้างรายได้ให้จ๊ะโจ้และครอบครัวอย่างมั่นคง โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเกาะสุกรเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายและธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์
การขายไม่จำกัดแค่บนเกาะ แต่ขยายไปทั่วประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เพจเฟซบุ๊ก “จิตติมา โจ้ เจริญฤทธิ์” และ “บ้านโจ้สตูดิโอ” ลูกค้าจากกรุงเทพฯ ภูเก็ต และภาคใต้ต่างชื่นชอบสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่น จ๊ะโจ้ยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมชุมชน เช่น วาดลวดลายสีสันบนถนนคนเดินหน้าสตูดิโอ เพื่อสร้างบรรยากาศแปลกใหม่และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสเกาะสุกรมากขึ้น
แนวคิดต่อยอดและอนาคตของศิลปะอัพไซเคิล
จ๊ะโจ้ไม่หยุดอยู่แค่งานไม้และผ้า เธอมีแผนต่อยอดนำ “ขยะพลาสติก” จากทะเลมาผสมผสานในงานศิลปะ เช่น ทำเป็นเครื่องประดับ หรือส่วนประกอบในภาพวาด เพื่อลดปัญหาขยะพลาสติกที่เกาะสุกรต้องเผชิญ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากโครงการอัพไซเคิลในชุมชนชายฝั่งอื่นๆ ในภาคใต้ “ศิลปะไม่ใช่แค่สวยงาม แต่ต้องช่วยสิ่งแวดล้อมและชุมชนด้วย” เธอกล่าว
บ้านโจ้สตูดิโอเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 9.00-18.00 น. นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากท่าเรือตะเสะ (ห่างจากตัวเมืองตรังประมาณ 60 กิโลเมตร) ด้วยเรือเร็วเพียง 15-20 นาที ค่าเรือประมาณ 50-100 บาทต่อเที่ยว ผู้ที่สนใจสามารถติดตามผลงาน สั่งซื้อ หรือนัดเวิร์กช็อปเพ้นท์ได้ทางเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว หากมาเยือนเกาะสุกร อย่าลืมแวะมาสัมผัสเสน่ห์ของศิลปะที่เกิดจากขยะ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์เกาะน้อยใหญ่แห่งตรังนี้
อ้างอิง: