เขื่อนภูมิพลมีโอกาสเสี่ยงล้น ฝนถล่มหนักต่อเนื่องถึง 10 พ.ย.

Cr. @seen_twitt

พายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” จากฟิลิปปินส์ จะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน 6-7 พ.ย. และจะทำให้ฝนตกหนักต่อเนื่อง ต้องระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลเพิ่มอีก

สถานการณ์ฝนตกหนักและพายุล่าสุด เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2568 กรมชลประทาน ระบุว่า ร่องมรสุม (Monsoon Trough) กำลังแรงพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออก ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยภาคอีสานยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่นคัลแมกี บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์คาดว่าช่วงวันที่ 6-7 พ.ย. จะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน

จากปริมาณฝนที่ตกหนักและสะสมในพื้นที่ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 54 จังหวัด ในจำนวนนี้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 36 จังหวัด และยังประสบอุทกภัยอีก 18 จังหวัด

ทั้งนี้ กรมชลประทานได้แจ้งเตือนเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ว่า ตั้งแต่เวลา 10.00 น.เขื่อนเจ้าพระยาจะปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 2,400 ลบ.ม./วินาที
ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้ คลองบางบาล จงพระนครศรีอยุธยา ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ตลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ ที่ติดแม่น้ำน้อย วัดสิงห์ วัดเสือข้าม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี อ.เมืองสิงห์บุรี อ.พรหมบุรี คลองโผงผาง จ.อ่างทอง วัดไชโย จ.อ่างทอง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ต.
โพนางลำ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท

สำหรับการบริหารจัดการน้ำกรมชลประทาน เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ปริมาณน้ำที่ระบายจากเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อยฯ ที่ไหลลงมารวมกันที่แม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานี C.2 ค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ อยู่ที่ 2,342 ลบ.ม./วินาที

ขณะที่ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (1 พ.ย.) อยู่ที่ 2,000 ลบ.ม./วินาที ปัจจุบันปรับเพิ่มเป็น 2,400 ลบ.ม./วินาที นอกจากนี้เขื่อนป่าสักฯ ระบายน้ำมาบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสถานี C29B อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เฉลี่ย 1,936 ลบ.ม./วินาที (มหาอุทกภัยปี 2554 ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานี C29A (ใกล้กับสถานี C29B ) อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เฉลี่ย 3,255 ลบ.ม./วินาที.)

กรมอุตุนิยมวิทยาอัปเดตเส้นทางพายุ “คัลแมกี” เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ว่า ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น และกำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านตอนกลางประเทศฟิลิปปินส์ ลงสู่ทะเลจีนใต้ ช่วงวันที่ 4-5 พ.ย.นี้ และช่วงวันที่ 7-9 พ.ย.จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ฝั่งประเทศเวียดนาม เมื่อขึ้นฝั่งแล้วจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศไทยตอนบน ซึ่งยังคงต้องติดตามเป็นระยะๆ เนื่องจากทิศทางและกำลังพายุยังเปลี่ยนแปลง

จากแนวโน้มดังกล่าวทางสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) คาดการณ์ว่า จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกและภาคใต้ ยังมีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่อง

ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำและการคาดการณ์ในปี 2568 ระบุว่า ไทยได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุหมุนเขตร้อนและมรสุม จำนวน 6 ลูก ได้แก่ พายุวิภา คาจิกิ หนองฟ้า ตาปะฮ์ รากาซา และบัวลอย ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่จำนวนมาก ส่งผลให้ปีนี้ต้นฤดูแล้ง วันที่ 1 พ.ย. แหล่งน้ำทั้งประเทศมีปริมาณน้ำรวม 70,656 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) คิดเป็น ร้อยละ 88 ของความจุเก็บกัก โดยมีอ่างฯ ที่อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังน้ำมาก 310 แห่ง

นอกจากนั้น จากการคาดการณ์ปริมาณน้ำเขื่อนภูมิพลมีโอกาสเสี่ยงล้น เนื่องจากอิทธิพลฝนตกหนักในช่วงวันที่ 8-10 พ.ย. ที่ประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 15/2568 จึงมีมติให้ปรับแผนการระบายน้ำของเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ในวันที่ 5 พ.ย. โดยปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 20 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ส่วนวันที่ 6 พ.ย.ปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 25 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน และวันที่ 7 พ.ย.เป็นต้นไปจะปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำเป็น 30 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน

สำหรับ เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ให้คงการระบายน้ำเดิมที่ 10 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ขณะที่การระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ปัจจุบันอยู่ที่ 2,300 ลบ.ม.ต่อวินาที และปรับเพิ่มตามสถานการณ์จริงและให้พิจารณาเร่งลดระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อสามารถระบายน้ำออกจากทุ่งรับน้ำได้ตามแผน (4 พ.ย. ปรับเพิ่มเป็น 2,400)

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่พายุ “คัลแมกี” ได้กลายเป็นพายุไต้ฝุ่นแล้ว รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ อธิบายผ่านเฟซบุ๊ก “Jessada Denduangboripant” ว่า แม้จะเข้าฤดูหนาวแล้ว แต่ก็ยังมีพายุก่อตัวเรื่อยๆ ซึ่งส่วนหนึ่งก็น่าจะเป็นผลจากปรากฏการณ์ลานีญาที่เริ่มขึ้นเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

Related posts

กรมประมงปลดล็อก เพาะ ‘หอยแครง’ สำเร็จ ลดพึ่งพาธรรมชาติ

กพช. ดัน ‘โซลาร์ฟาร์มชุมชน-ระบบส่งไฟฟ้า EEC’ หนุนพลังงานสะอาด

ไทย-สหรัฐฯ ลงนาม MOU ‘แร่แรร์เอิร์ธ’ ครั้งแรก ยกระดับห่วงโซ่อุปทาน