14 ตุลาคม “วันขยะอิเล็กทรอนิกส์สากล” ร่วมรณรงค์ International E-Waste Day ด้วยการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์มาฝากรีไซเคิลอย่างถูกวิธี มุ่งเน้นกู้คืน Critical Raw Materials เพื่อเทคโนโลยีสีเขียวและอนาคตที่ยั่งยืน
14 ตุลาคม “วันขยะอิเล็กทรอนิกส์สากล” หรือที่รู้จักในชื่อ International E-Waste Day เพื่อรณรงค์ให้ทั่วโลกสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ (e-waste) ซึ่งเป็นขยะที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยมุ่งเน้นให้ผู้บริโภคจัดการทิ้งขยะอย่างรับผิดชอบ ส่งเสริมการรีไซเคิล และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ พบว่า ทั่วโลกสร้าง “E-Waste” ขนาดเล็กแล้วกว่า 22 ล้านตันในปี 2019 คิดเป็นประมาณ 40% ของ E-Waste ทั้งหมดที่ผลิตทั่วโลก และหากปริมาณของ E-Waste เล็กๆ เหล่านี้ ยังคงเพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกับ E-Waste ทั้งหมดที่โตราว 3% ต่อปี ก็จะเป็นตัวเลขถึง 29 ล้านตันภายในปี 2573 ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงกับการเพิ่มขึ้นของมลพิษ หากไม่ถูกนำไปรีไซเคิลอย่างถูกวิธีตามมาตรฐานสากล
ในวันที่ 14 ตุลาคม ทุกปี จะมีการจัดงาน International E-Waste Day ซึ่งจัดขึ้นโดย WEEE Forum (Waste Electrical and Electronic Equipment) องค์กรนานาชาติที่รวบรวมข้อมูลด้านขยะอิเล็กทรอนิกส์และมีสมาชิกจากหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลก เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างเป็นทางการและมีความรับผิดชอบ และแนวทางแก้ไขที่มีให้ประชาชนทุกคนในชุมชนของตน ซึ่งปีที่แล้ว มีบริษัท 195 แห่ง จาก 55 ประเทศ เข้าร่วมการเฉลิมฉลองด้วยการจัดกิจกรรม การรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์ โซเชียลมีเดีย และแคมเปญทางสื่อมวลชน
สำหรับในประเทศไทย ทางผู้ให้บริการมือถือ อย่าง AIS ในฐานะองค์กรไทยรายแรกที่เข้าร่วมเป็นสมาชิก WEEE Forum (Waste Electrical and Electronic Equipment) ก็ได้เป็นแกนกลางเดินหน้าดึงศักยภาพกรีนพาร์ทเนอร์ทั้งภาครัฐและเอกชนไทยรวมกว่า 220 องค์กร ร่วมยกระดับการทำงานของ HUB OF E-WASTE หรือ ศูนย์กลางการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ จากการแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธีผ่านการสร้างความตระหนักรู้ สู่ภารกิจ Decarbonization ที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
แต่ละปี จะมีธีมการจัดงาน เช่นปี 2022 ชูแนวคิด Recycle it all, no matter how small! เก็บขยะ E-Waste ชิ้นเล็กๆ ใกล้ตัวคุณไปรีไซเคิลอย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัยของมนุษยชาติ และเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมของโลกนี้อย่างยั่งยืน
ธีมปี 2025: มุ่งเน้น “Critical Raw Materials (CRMs)” ซึ่งเป็นธาตุสำคัญสำหรับเทคโนโลยีสีเขียวและดิจิทัล เช่น ในสมาร์ทโฟน รถไฟฟ้า และแผงโซลาร์เซลล์ โดยเรียกร้องให้ผู้คนนำอุปกรณ์เก่ามารีไซเคิลเพื่อกู้คืนทรัพยากรเหล่านี้