นายกฯ สั่งด่วน แก้ปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก หลังพบต้นตอมลพิษ จากเหมืองในเมียนมา สั่งประสานหน่วยงานและเจรจาระดับทวิภาคี เพื่อหยุดยั้งมลพิษ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์พบสารปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานในแม่น้ำกก นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร มีความห่วงใย และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากปัญหานี้อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการดำรงชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ตั้งแต่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย โดยสาเหตุเบื้องต้นชี้ไปที่การทำเหมืองในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจเป็นแหล่งที่มาของการปนเปื้อน
เพื่อแก้ไขปัญหานี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะผู้กำกับดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการให้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการติดตามและจัดการแหล่งที่มาของปัญหา รวมถึงประสานเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหยุดหรือปรับปรุงวิธีการทำเหมืองให้ลดการระบายสารปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำ
นายจิรายุ ระบุว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายละเอียดดังนี้
การประชุมและติดตามสถานการณ์
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้จัดการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำแม่น้ำระหว่างประเทศ ลุ่มน้ำโขงเหนือ ครั้งที่ 1/2568 โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธาน เพื่อประสานงานระหว่างหน่วยงานและวางแนวทางการแก้ไขปัญหา
การใช้เทคโนโลยีดาวเทียม
สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ได้จัดทำข้อมูลย้อนหลัง 8 ปี (ตั้งแต่ปี 2560-2568) โดยใช้ดาวเทียมเพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ พบว่าในช่วงปี 2567-2568 มีการเปิดหน้าดินในพื้นที่เมียนมาเพิ่มมากขึ้นในหลายจุด และเมื่อแปลผลข้อมูลความขุ่น (turbidity) พบความขุ่นในน้ำเพิ่มขึ้นในบริเวณที่มีการเปลี่ยนแปลง ข้อมูลดังกล่าวได้ถูกส่งต่อให้กรมกิจการชายแดนทหารและกรมควบคุมมลพิษเพื่อดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกอย่างครบวงจร หน่วยงานต่างๆ ได้บูรณาการความร่วมมือ ดำเนินการใน 4 ด้านหลัก ดังนี้
การจัดการแหล่งที่มาของปัญหา
กรมควบคุมมลพิษได้จัดการประชุมเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ร่วมกับกรมกิจการชายแดนทหาร กรมเอเชียตะวันออก GISTDA และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เพื่อเตรียมข้อมูลคุณภาพสิ่งแวดล้อมและภาพถ่ายดาวเทียม โดยมีข้อตกลงให้กรมควบคุมมลพิษเป็นหน่วยงานหลักในการประมวลผลข้อมูล 3 ด้าน ได้แก่:
- การบ่งชี้ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม
- ผลกระทบต่อสุขภาพระบบนิเวศ
- แนวทางการให้ความช่วยเหลือเมียนมาในด้านการทำเหมืองที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) จะพิจารณาแนวทางลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
กรมควบคุมมลพิษจะประสานงานกับ GISTDA กรมอนามัย และ กพร. เพื่อจัดส่งข้อมูลให้กรมกิจการชายแดนทหารและกรมเอเชียตะวันออกใช้ในการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน
การแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนและการบรรเทาผลกระทบ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเน้นการป้องกันการแพร่กระจายของโลหะหนักและจัดหาน้ำสะอาดสำหรับการอุปโภค บริโภค และการประกอบอาชีพ โดยมีแนวทางดังนี้:
- หน่วยทหารช่าง มีแผนขุดลอกแม่น้ำกก ระยะทาง 3 กิโลเมตร บริเวณหมู่บ้านธนารักษ์ถึงสะพานย่องลี อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
- กรมควบคุมมลพิษ อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดการตะกอนในแม่น้ำ เช่น การปรับสภาพน้ำ ระบบตักตะกอน และการเบี่ยงกระแสน้ำ
- การประปาส่วนภูมิภาค ได้จัดเตรียมแผนบริหารจัดการระยะยาวในกรณีที่แหล่งน้ำผิวดินปนเปื้อน เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนจะได้รับน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ
การเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อสุขภาพ
หน่วยงานต่างๆ ได้เพิ่มความถี่ในการเก็บตัวอย่างน้ำ ตะกอนดิน สัตว์น้ำ คุณภาพน้ำประปา ผลผลิตทางการเกษตร และตรวจสุขภาพประชาชนในพื้นที่ ดังนี้:
- กรมควบคุมมลพิษ จะเก็บตัวอย่างน้ำและตะกอนดินในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย ลำน้ำสาขา และแม่น้ำโขง เดือนละ 2 ครั้ง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกันยายน 2568
- กรมประมง ได้เก็บตัวอย่างสัตว์น้ำเพื่อตรวจสอบโลหะหนักเมื่อวันที่ 11 เมษายน 28 เมษายน และ 2 พฤษภาคม 2568 ผลการตรวจพบว่าไม่เกินค่ามาตรฐาน ไม่พบแคดเมียมและตะกั่ว ส่วนตุ่มแดงในสัตว์น้ำเกิดจากปรสิต
- กรมอนามัย ตรวจคุณภาพน้ำประปาในหมู่บ้านและปัสสาวะของประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายในเดือนเมษายน 2568 พบว่าไม่มีการปนเปื้อนสารหนูและตะกั่วเกินมาตรฐาน
- การประปาส่วนภูมิภาค ตรวจสอบคุณภาพน้ำดิบที่ใช้ผลิตน้ำประปา พบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
- กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ตรวจสอบคุณภาพน้ำบาดาลในอำเภอแม่อาย 10 จุด ไม่พบสารหนูและตะกั่วเกินมาตรฐาน
- กรมทรัพยากรน้ำ ตรวจวัดคุณภาพน้ำในแม่น้ำกกและแม่น้ำโขง (สถานีเชียงแสน) เดือนละ 2 ครั้ง และรายงานผลให้จังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายทราบ
มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำผิวดิน โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อกำกับดูแลและประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ
การเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน
นายจิรายุ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ติดตามต้นตอของปัญหาและเร่งแก้ไข โดยในการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) ที่เมืองเชียงตุง รัฐฉาน ระหว่างวันที่ 17-20 มิถุนายน 2568 กรมกิจการชายแดนทหารจะนำประเด็นมลพิษในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเข้าหารือ นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมเอเชียตะวันออก ได้ส่งหนังสือผ่านสถานทูตไทยในเมียนมาและเชิญผู้แทนจากสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหานี้ต่อไป