ตั้งคำถาม ‘วลาดิมีร์ ปูติน’ผู้ก่ออาชญากรรมสิ่งแวดล้อม?

บทความใน The Hill สื่ออเมริกันแสดงความเห็นถึง “อาชญากรรมด้านสิ่งแวดล้อมของปูติน” ที่ชี้ให้เห็นว่าผู้นำรัสเซียทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์โนบิลอีกครั้ง หลังจากส่งทหารรุกรานยูเครนและมีทหารรัสเซียไปยึดครองที่นั่น

DW เคยรายงานไว้ก่อนที่สงครามในยูเครนจะเริ่มต้นขึ้นว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เป็นหนึ่งในผู้นำของโลกที่คลางแคลงใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

“บางครั้งตั้งคำถามถึงบทบาทที่มนุษย์มีต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก และกระทั่งแนะว่าโลกที่ร้อนขึ้นจะสามารถสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ ให้กับประเทศได้” DW ระบุ

ปูตินอาจทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่ส่งผลร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม แต่เราก็ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าปูตินก็เหมือนกับผู้นำโลกคนอื่น ๆ ที่มีส่วนรับผิดชอบต่อหายนะด้านสิ่งแวดล้อมเท่า ๆ กัน แต่มันจะถึงขั้นเป็น “อาชญากรรม” หรือไม่?

Politico สื่อการเมืองจากสหรัฐอเมริกานำเสนอบทความเรื่อง “ความเชื่อมโยงระหว่างปูตินกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” โดยชี้ว่าระหว่างการรุกรานยูเครน ทำให้ความพยายามแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศโลกต้องหยุดชะงักไป

อย่างแรก นักวิทยาศาสตร์ IPCC ของยูเครนต้องหยุดทำงรายงานสภาพภูมิอากาศในขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะแล้วเสร็จ เนื่องจากพวกเขาต้องการที่หลบภัยจากขีปนาวุธของรัสเซีย

อย่างที่สอง รายงานของ IPCC เองก็ชี้ว่า พื้นดินเยือกแข็งของรัสเซียกำลังละลายอย่างรวดเร็ว แต่รัสเซียกลับไปทำสงคราม ปล่อยให้พื้นดินเยือกแข็งปล่อยสารเคมีทำลายโลกออกมา รวมถึงโรคแอนแทรกซ์

บทความนี้ตั้งคำถามไปถึงปูตินว่า “แล้วปูตินจะตอบโต้อย่างไร?” เพราะการแก้ปัญหาเหล่านี้ต้องใช้เงิน การวางแผน และการจัดลำดับความสำคัญ หากไม่ทำอะไรนักวิทยาศาสตร์เตือนว่ามันจะสูญเสียการควบคุม

อย่างที่สาม บทความนี้โทษปูตินว่า “ปูตินกำลังลากโลกเข้าสู่ยุคใหม่ของการใช้จ่ายด้านกลาโหมที่สูงขึ้นและให้ความสำคัญทางการทหาร” แทนที่จะทำตามรายงาน IPCC ที่จะต้องการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสีเขียว

แต่ข้อสังเกตของ Politico จุดนี้จะโทษปูตินฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะหลายประเทศตัดสินใจกันเองที่จะเพิ่มงบประมาณด้านการทหาร และใครจะรู้ว่านี่อาจเป็นโอกาสดีของนักการเมืองนิยมทหาร อุตสาหกรรมอาวุธ และกลุ่มนิยมพลังงานฟอสซิลที่จะเพิ่มงบประมาณ

เอาเข้าจริง ๆ ปูตินไม่ถึงขั้นก่ออาชญากรรม เขาเป็นแค่ตัวฉุดรั้งการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาใหญ่ของปูตินกับภาวะโลกร้อนตอนนี้คือเขาจะจริงใจกับมันแค่ไหนนับจากนี้

เพราะในขณะเดียวกัน อนาโตลี ชูไบส์ ผู้เจรจาปัญหาสภาพภูมิอากาศที่ได้รับการแต่งตั้งจากปูติน ได้ลาออกจากตำแหน่งและออกจากประเทศเพื่อประท้วงเรื่องการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

ชูไบส์เป็นนักปฏิรูปเศรษฐกิจที่โดดเด่นหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ได้รับการแต่งตั้งในปี 2020 ให้เป็นตัวเชื่อมระหว่างรัสเซียกับองค์กรระหว่างประเทศไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

การที่เขาลาออกและหลบหนีอกจากรัสเซียทำให้เขากลายเป็นเจ้าหน้าที่รัสเซียที่อาวุโสที่สุดที่ทำเช่นนั้น และจะทำให้การเจรจาแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศโลกต้องสะดุดลงไปด้วย เพราะปูตินอาจไม่แต่งตั้งใครมาแทนในระยะนี้

รัสเซียอาจจะไม่มีผู้แทนเจรจาปัญหาโลกร้อนไปอีกนาน และน่าสงสัยว่าการประชุม COP รัสเซียจะถูกแบนหรือไม่ หากมีการคว่ำบาตรจริงมันจะยิ่งทำให้ความพยายามแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศโลกยิ่งหมดหวัง

ดังนั้นจึงเริ่มมีเสียงเรียกร้องว่า การแก้ปัญหาโลกร้อนจะขาดรัสเซียไม่ได้ และในขณะที่สื่อของสหรัฐอเมริกาและในยุโรปให้ภาพของปูตินว่าเป็น “อาชญากรด้านสิ่งแวดล้อม” แต่ในระยะหลังปูตินเปลี่ยนท่าทีไปมากแล้ว

แม้ว่าปูตินจะไม่ได้ไปร่วมประชุม COP26 ซึ่งคาดว่าเพราะเขาอาจจะยุ่งกับการวางแผนโจมตียูเครน แต่ช่วงหลายเดือนก่อนเขาสั่งให้รัฐบาลของเขาพัฒนาแผนสำหรับรัสเซียในการบรรลุความเป็นกลางของคาร์บอนภายในปี 2060

แม้กระทั่งประกาศเป้าหมายที่จะแซงหน้าสหภาพยุโรปในแง่ของการลดการปล่อยก๊าซโดยรวมภายในปี 2050 ซึ่งสวนทางกับจุดยืนก่อนหน้านั้นที่ปูตินถูกมองว่าเป็นพวกไม่เชื่อว่าปัญหาโลกร้อนเกิดจากน้ำมือมนุษย์

อ้างอิง
• Karl Mathiesen. (February 28, 2022). “The link between Putin and climate change”. POLITICO Europe.
• Jacob Knutson (March 24, 2022) “Putin’s climate envoy resigns over Ukraine invasion and leaves Russia”. Axios.
• “Russia shifts its rhetoric on climate action”. (November 24, 2021). DW.
ภาพ Kremlin.ru

Related posts

ครม. ขยายเวลาช่วยชาวไร่อ้อยตัด ‘อ้อยสด’ ถึง ธ.ค. 68 ลด PM2.5

สุดเจ๋ง เด็กอาชีวะประดิษฐ์หุ่นอัจฉริยะ ไล่ ‘ปลาหมอคางดำ’ ด้วยคลื่นเสียง

‘สารหนู’ 0.01 มก./ล. นักวิชาการถาม ทำไมน้ำผิวดินไทยเท่าเกณฑ์น้ำดื่ม?