พระไพศาล บอกว่า แม้กระทั่งนักปฏิบัติธรรมก็มีความอยากไม่ต่างคนทั่วไป เพราะเวลานั่งสมาธิอยากให้สงบ ยิ่งอยากสงบ จิตมันยิ่งไม่สงบ เพราะมันไปบังคับจิตให้สงบ จิตมันก็จะดิ้น เพราะจิตมันไม่ยอมให้ใครมาบังคับ มันต้องการอิสระ และพออยากให้จิตสงบ มันก็จะมีมาตรฐานว่าต้องไม่มีความคิดเลย บางทีมีความคิดโผล่มาตัวสองตัวก็ไม่พอใจ เพราะไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง
ป่วยกายได้แต่อย่าป่วยใจ
ความทุกข์ของคนเรา บ่อยครั้งไม่ได้เกิดจากว่ามีอะไรเกี่ยวกับเรา แต่เป็นเพราะมันไม่ตรงกับความคาดหวังของเรา เราจึงหงุดหงิด เราจึงเสียใจ เพราะฉะนั้นนอกจากการอยากหายแล้ว ความอยากให้จิตสงบก็เหมือนกัน
นักปฏิบัติธรรมหลายคนเวลาป่วย อาจจะยอมรับความป่วยทางกายได้ แต่คาดหวังว่าอยากให้ใจสงบ ป่วยกายก็ได้แต่อย่าป่วยใจ อย่าให้จิตมันหงุดหงิด แต่จิตมันก็หงุดหงิด จิตมันก็ฟุ้งขึ้นมา
หลายคนทำใจไม่ได้ ปรากฏว่าทุกข์กว่าเดิม คนธรรมดาเวลาป่วยกายและก็จะป่วยใจด้วย เพราะเขาอยากให้การมันหาย แต่พอการป่วยไม่หายไม่ตรงอย่างที่คาด จิตก็จะหงุดหงิด จิตไม่พอใจ
พระพุทธเจ้าเรียกว่า โดนธนูสองดอก ธนูดอกแรกคือ ทุกข์กาย ธนูดอกที่สองคือ ทุกข์ใจ ทุกข์ใจเพราะต้องการให้กายเป็นหายทุกข์ ไม่มีทุกขเวทนา แต่เมื่อกายมันยังทุกข์อยู่ ใจก็เลยเป็นทุกข์ไปด้วย
ใจไม่สงบได้หงุดหงิดได้
แต่นักปฏิบัติธรรมจะโดนธนูดอกที่สาม ถ้าไม่รักษาใจให้ดี เพราะว่าเวลาใจไม่สงบก็จะมีความทุกข์เพราะว่าอยากให้ใจมันสงบ แต่พอใจไม่สงบใจ ใจมีความหงุดหงิด ใจมีความกังวล ก็รู้สึกผิดหวัง
มีบางคนผิดหวังมากว่า ทำไมใจฉันไม่สงบทั้งที่ฉันก็ภาวนามาเยอะ ฉันภาวนามา 20 ปี แต่ทำไมอานาปานสติไม่ช่วยฉันเลย ทำไมการปฏิบัติเจริญสติแบบหลวงพ่อเทียนจึงไม่ช่วยฉันเลย ทำไมใจมันยังไม่สงบ
นี่เราโดนธนูสามดอก ดอกแรก ทุกข์กาย ดอกที่สอง ทุกข์ใจ เพราะยอมรับไม่ได้ที่กายมันทุกข์ ทุกข์ดอกที่สามคือทุกข์ใจซ้อน เพราะยอมรับไม่ได้ที่ใจไม่สงบ เป็นเพราะความคาดหวัง การปฏิบัติถ้าวางใจไม่ดี ถ้าเราจะคาดหวังมากเกินไป และความคาดหวังนั่นแหละที่จะมาทำร้ายเรา
ดังนั้น เราจะเห็นนักปฏิบัติบางคนทุกข์ทรมานมากเลยที่ใจไม่สงบ ยอมรับไม่ได้ที่กายไม่สงบ แต่คนส่วนใหญ่ที่ไม่สนใจการภาวนา จะไม่ได้คาดหวังว่าใจต้องสงบเพราะเขาไม่มีรู้เรื่องนี้ แต่นักภาวนาจะเข้าใจว่าใจมันสงบได้เจ็บแม้ป่วย กายป่วยแต่ใจไม่ป่วย แต่พอใจป่วยขึ้นมา ใจไม่สงบขึ้นมาทุกข์เลย
ฉะนั้น ต้องวางความอยากให้ใจสงบด้วย บอกตัวเองว่าโอเค ถ้าใจมันจะหงุดหงิด ใจมันจะโวยวายตีโพยตีพายเพราะการยอมรับเนี่ยมันช่วยทำให้การยึดติดถือมั่นมันจางคลายลง และถ้าเราไม่ยึดติดถือมั่นจางคลายลงความทุกข์ก็จะลดลงตามไปด้วย ฉะนั้นการปล่อยวางความอยากก็เป็นเรื่องสำคัญ