เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่สุดในชิลี ไฟป่าเผาบ้านเรือน ดับแล้ว 123 คน

ประธานาธิบดีชิลีประกาศวันไว้ทุกข์ระดับชาติแก่ผู้ประสบอัคคีภัย หลังเกิดเหตุไฟป่าครั้งใหญ่สุดของประเทศ ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 123 คน สูญหายอีกจำนวนมาก

สำนักงานภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า ไฟป่าในชิลีได้สร้างความเสียหายทั่วพื้นที่ส่วนใหญ่ของชิลี เชื่อกันว่าเป็นไฟป่าที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่นักดับเพลิงพยายามควบคุมไฟมากกว่า 160 จุด หลังจากการเผามาหลายวัน

ไฟดังกล่าวคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 123 ราย และยังมีผู้สูญหายอีกหลายร้อยคน ตามการระบุของทางการชิลี เจ้าหน้าที่ยังกล่าวอีกว่า สามารถระบุตัวตนได้แล้ว 33 ศพ และมีการชันสูตรพลิกศพแล้ว 79 ศพ

สำนักงานลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ คาดว่า ยังมีผู้สูญหายอีกหลายร้อยคน และคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้น ในขณะที่ มากาเรนา ริปามอนติ นายกเทศมนตรีเมืองวิญา เดล มาร์ กล่าวว่า มีรายงานผู้สูญหายอย่างน้อย 370 คนจากจำนวนผู้อยู่อาศัยในเมืองนี้ประมาณ 3 แสนคน

ไฟป่าได้ทำลายล้างพื้นที่ตอนกลางและตอนเหนือของชิลี บ้านเรือนและอาคารเสียหายอย่างน้อย 3,000 หลัง และทำให้พื้นที่ใกล้เคียงกลายเป็นเถ้าถ่าน

ประธานาธิบดีกาเบรียล โบริก กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ไฟป่าดังกล่าวถือเป็น “โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุด” ในประเทศ นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี 2553 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน

ไฟป่าครั้งนี้ลุกลามจากแนวป่าไปยังเขตเมือง ทำให้บ้านเรือนที่ถูกเผาทำลายเต็มไปด้วยควัน โดยภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นถนนที่ไหม้เกรียมและบ้านเรือนที่ถูกทำลายเป็นแถว ทำให้
ประธานาธิบดีของชิลีประกาศให้วันจันทร์และอังคารที่ผ่านมา เป็นวันไว้ทุกข์ระดับชาติแก่ผู้ประสบอัคคีภัย

หายนะจากเพลิงไหม้ในชิลีได้รับผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญ ความผันผวนของสภาพภูมิอากาศตามธรรมชาติที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อน ซึ่งมีแนวโน้มกระตุ้นให้เกิดความแห้งแล้งและคลื่นความร้อนที่รุนแรง และบ่อยครั้งมากขึ้น

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ชิลีต้องเผชิญกับภัยแล้งขนาดใหญ่ยาวนานที่สุดในรอบอย่างน้อย 1,000 ปี ส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำ ภูมิประเทศแห้งแล้ง และก่อให้เกิดไฟลุกไหม้

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาโลก ระบุว่า อุณหภูมิสูงสุดในซานติอาโกเมืองหลวงของชิลีสูงถึง 37.3 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ซึ่งถือเป็นอุณหภูมิสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศในรอบกว่าศตวรรษ

ผลการศึกษาในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาตีพิมพ์ในวารสาร Nature ระบุว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ไฟป่าในชิลีเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากอุณหภูมิสูง ความแห้งแล้ง และลมแรงได้รวมตัวกันสร้างสภาวะที่เอื้อต่อการเกิดไฟป่าที่รุนแรง และทำลายล้างสูง

นอกจากนี้ การศึกษาพบว่า ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมามีการเผาไหม้ในชิลีทั้งหมด 1.7 ล้านเฮกตาร์

อ้างอิง:
https://edition.cnn.com/2024/02/06/climate/chile-wildfires-deadliest-climate-intl/index.html
https://apnews.com/article/chile-deadly-fires-vina-del-mar-4707856a7f7404a02c913ed08eddbb80

Related posts

‘โคคา-โคล่า’ ยืนหนึ่งก่อมลพิษพลาสติก
สัดส่วน 11% สูงที่สุดในโลก

ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ กินพื้นที่กว่า 54% ของแนวปะการังทั้งหมด

โลกร้อนทำป่วน ไข่เต่ามะเฟืองรังแรกของปี ไร้ลูกเต่าเกิดแม้แต่ตัวเดียว