‘เรนบอมบ์’ ปรากฏการณ์ฝนกระหน่ำจากฟ้าในยุคโลกร้อน

Photo taken in Napoli, Italy

โลกร้อน-การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กระตุ้น “เรนบอมบ์” (rain bomb) ปรากฏการณ์ฝนกระหน่ำจากฟ้า ที่เปรียบได้กับการเทน้ำจากถังขนาดยักษ์ลงสู่พื้นในเวลาอันสั้น

“ลานินญาจากไป แต่ฝากฝนไว้ทิ้งท้าย ตอนนี้โลกอยู่ในภาวะเป็นกลาง แต่ยุคโลกร้อน อาจเจอ rain bomb ตูมเดียวท่วม เตรียมรับมือไว้บ้างนะครับ” เป็นคำเตือนจาก อ.ธรณ์ ธํารงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เรนบอมบ์: ปรากฏการณ์ฝนกระหน่ำจากฟ้าในยุคโลกร้อน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คำว่า “เรนบอมบ์” (Rain Bomb) ได้กลายเป็นคำที่ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายในสื่อและวงการอุตุนิยมวิทยา โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์ฝนตกหนักอย่างฉับพลันและรุนแรง จนนำไปสู่น้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย จนได้รับการเปรียบว่าเสมือน “สึนามิจากฟ้า”

เรนบอมบ์คืออะไร?

เรนบอมบ์ หรือ ระเบิดฝน เป็นคำที่ใช้เรียกปรากฏการณ์ฝนตกหนักมากในระยะเวลาสั้นๆ โดยปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามีความเข้มข้นสูงเกินกว่าที่ระบบระบายน้ำ หรือสภาพแวดล้อมจะรับไหว ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและความเสียหายอย่างรวดเร็ว คำนี้ไม่ใช่ศัพท์ทางการในอุตุนิยมวิทยา แต่ถูกใช้เพื่อสื่อถึงความรุนแรงของฝนที่เหมือน “ระเบิด” ลงมาจากฟ้า

ในทางวิทยาศาสตร์ เรนบอมบ์มักเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ดาวน์ดราฟต์ (Downdraft) หรือ ไมโครเบิร์ส (Microburst) ซึ่งเป็นกระแสลมที่พัดลงจากฟ้าในแนวดิ่งพร้อมกับพาน้ำฝนปริมาณมหาศาลลงมาด้วย ความรุนแรงของปรากฏการณ์นี้สามารถเปรียบได้กับการเทน้ำจากถังขนาดยักษ์ลงสู่พื้นในเวลาอันสั้น

สาเหตุของเรนบอมบ์

เรนบอมบ์เป็นผลพวงจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับภาวะโลกร้อน (Global Warming) และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดเรนบอมบ์ ได้แก่

  • ภาวะโลกร้อน: อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นทำให้ชั้นบรรยากาศสามารถกักเก็บไอน้ำได้มากขึ้น เมื่อไอน้ำเหล่านี้ควบแน่นกลายเป็นเมฆฝน ก็จะปล่อยน้ำฝนออกมาในปริมาณที่มากและรุนแรงกว่าปกติ
  • ปรากฏการณ์ลานีญา: ลานีญา (La Niña) ซึ่งเป็นภาวะที่อุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกลดลง สามารถกระตุ้นให้เกิดฝนตกหนักในบางพื้นที่ รวมถึงประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน
  • การเปลี่ยนแปลงของกระแสลม: ความผันผวนของกระแสลมในชั้นบรรยากาศ เช่น เจ็ตสตรีม (Jet Stream) สามารถนำพาเมฆฝนขนาดใหญ่มาปะทะกับพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ส่งผลให้ฝนตกหนักในวงจำกัด
  • การพัฒนาเมือง: การขยายตัวของเมืองและการก่อสร้างที่ไม่คำนึงถึงระบบระบายน้ำ ทำให้พื้นที่รับน้ำฝนลดลง และน้ำฝนจากเรนบอมบ์ไม่สามารถระบายได้ทัน

ผลกระทบของเรนบอมบ์

  • น้ำท่วมฉับพลัน: ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในเวลาสั้น ๆ ทำให้ระบบระบายน้ำในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ ไม่สามารถรองรับได้ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังและความเสียหายต่อทรัพย์สิน
  • ความสูญเสียทางชีวิต: ตัวอย่างเช่น ในปี 2024 ที่แคว้นบาเลนเซีย ประเทศสเปน ฝนจากเรนบอมบ์ทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ มีผู้เสียชีวิตกว่า 65 ราย และเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี
  • ความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน: ถนน สะพาน และอาคารต่างๆ อาจพังทลายจากแรงน้ำและน้ำท่วม
  • ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: น้ำท่วมจากเรนบอมบ์อาจพัดพามลพิษ เช่น ขยะและสารเคมี ลงสู่แหล่งน้ำ สร้างปัญหาต่อระบบนิเวศ
  • ผลกระทบทางเศรษฐกิจ: ความเสียหายจากน้ำท่วมส่งผลกระทบต่อธุรกิจ การเกษตร และการท่องเที่ยว

ตัวอย่างเรนบอมบ์ในประเทศไทยและทั่วโลก

ในประเทศไทย เรนบอมบ์มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองใหญ่และภาคเหนือที่เป็นแอ่งรับน้ำ ตัวอย่างเหตุการณ์ที่ผ่านมา เช่น ฝนตกหนักในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ เนื่องจากระบบระบายน้ำไม่สามารถรับมือกับปริมาณฝนที่ตกลงมาได้ทัน

ในระดับโลก เหตุการณ์เรนบอมบ์ที่สเปนในปี 2024 เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน โดยฝนที่ตกลงมาในเวลาเพียง 8 ชั่วโมงมีปริมาณมากกว่าฝนทั้งปีรวมกัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและความเสียหายรุนแรง

เรนบอมบ์เป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนถึงความท้าทายในยุคที่สภาพอากาศของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยความรุนแรงของฝนที่ตกลงมาในระยะเวลาสั้น ๆ และผลกระทบที่ตามมา ทั้งน้ำท่วม ความสูญเสียทางชีวิต และความเสียหายต่อทรัพย์สิน ทำให้ทุกภาคส่วนต้องตระหนักและเตรียมพร้อมรับมือ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาเทคโนโลยี และการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติจะเป็นกุญแจสำคัญในการลดผลกระทบจาก “สึนามิจากฟ้า” นี้

Related posts

16 มิ.ย. ‘วันเต่าทะเลโลก’ ร่วมอนุรักษ์-ปกป้อง ‘เต่าทะเล’

เปลี่ยน ‘ป้ายหาเสียง’ เป็นกระเป๋าสุดเก๋ ลดขยะ สร้างมูลค่าเพิ่ม

AI ช่วยพัฒนา แต่เพิ่มปัญหาสิ่งแวดล้อม ทำคาร์บอนพุ่ง 150% ใน 3 ปี