‘โลกเดือด’ เสี่ยงเข้าสู่ฉากทัศน์ We Fail ปี 2060

อากาศร้อนจัดทั่วไทย ไร้เมฆปกคลุม ภาวะฝนทิ้งช่วงซ้ำเติม ขณะที่เป้าหมายความยั่งยืน SDG2030 และการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ เสี่ยงเข้าสู่ฉากทัศน์ We Fail (อุณหภูมิโลกเพิ่มเกิน 2.6 องศาเซลเซียส)  ปี 2060

วันที่ 4 สิงหาคม เป็นวันที่ร้อนที่สุดในสัปดาห์นี้

นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ให้ข้อมูลว่า ทุกปีในช่วงนี้จะเป็นฤดูฝน และที่สำคัญคือพระอาทิตย์จะตั้งฉากกับประเทศไทย แต่ที่ผ่านมา คนไทยไม่ค่อยรู้สึกว่ามันร้อน เพราะทุกปีประเทศไทยจะมีเมฆมาก ซึ่งเมฆเหล่านี้จะทำหน้าที่ฟิวเตอร์กรองความร้อนจากดวงอาทิตย์

แต่ในปีนี้ นับตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม ไทยเจอกับภาวะฝนทิ้งช่วง และไม่มีเมฆเลย ท้องฟ้าคลีน ฟ้าเปิดโล่ง จึงไม่มีเมฆที่ทำหน้าที่กรองความร้อนจากดวงอาทิตย์ ทำให้แดดส่องมายังพื้นโลกตรงๆ จนรู้สึกร้อนกว่าปกติ สถานการณ์ความร้อนเริ่มดีขึ้นในวันนี้ภาคเหนือและอีสาน ที่เริ่มมีเมฆมาปกคลุม แต่ภาคกลางและกรุงเทพฯ ต้องอดทนร้อนอีก 1 วัน ให้เมฆเข้าปกคลุมในวันที่ 6 สิงหาคม และคาดว่าจะมีฝนตกชุกตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม เป็นต้นไป

โลกเดือด! เสี่ยงเข้าสู่ฉากทัศน์ We Fail ปี 2060

รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ ม.รังสิต และรองประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ในฐานะคณะทำงาน IPCC โพสต์ข้อความ เน้นย้ำถึงความท้าทายในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG2030)

จากรายงานของ UN ปี 2024 พบว่ามีความคืบหน้าเพียง 17% จาก 17 เป้าหมาย โดย 4 เป้าหมายที่ไม่มีความก้าวหน้า ได้แก่:

  • ขจัดความยากจน (SDG 1)
  • น้ำและสุขอนามัยสำหรับทุกคน (SDG 6)
  • มาตรการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (SDG 13)
  • สันติภาพ ความยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง (SDG 16)

เหลือเวลาไม่ถึง 5 ปีในการดำเนินการ ทำให้การบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ยิ่งยากขึ้น โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 13 ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งพบว่า:  การปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) เพิ่มขึ้น 0.8-1.5% ต่อปี (เฉพาะ CO2) และ 1.1-1.4% ต่อปี (รวม GHG ทั้งหมด)

IPCC ระบุว่าต้องลดการปล่อย GHG ลง 42% ภายในปี 2030 (หรือลดลง 8-9% ต่อปี) เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net-Zero ในปี 2050

การนำองค์กรสู่ความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ (Climate Resilience) จึงเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน เช่น กฎระเบียบใหม่ (CBAM, CO2 Tax, พ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, มาตรฐานการรายงานความยั่งยืน), เป้าหมาย SDG2030, Net-Zero และข้อตกลงปารีส  ฉากทัศน์สภาพภูมิอากาศโลก

สภาพอากาศทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่าง “แพร่หลาย รวดเร็ว และรุนแรง” ปัจจุบันอยู่ในฉากทัศน์ “We Live” (อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส) และคาดว่าจะเข้าสู่ฉากทัศน์ “We Stay” (อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส) ภายในปี 2058 แต่มีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ฉากทัศน์ “We Fail” (อุณหภูมิโลกเพิ่มเกิน 2.6 องศาเซลเซียส) ในปี 2060

Related posts

กทม. ชี้เหตุ ‘ถนนทรุด’ หน้าวชิรพยาบาล ดินไหลเข้าอุโมงค์สร้างรถไฟฟ้า

‘ผำ’ พืชมหัศจรรย์ สศท.5 หนุน สร้างรายได้ยั่งยืนให้เกษตรกร

กระทรวงทรัพย์ฯ ผนึกกำลังภาคี จัด ‘TCAC 2025’ มุ่งสู่ Net Zero 2065