มหัศจรรย์ธรรมชาติ กองทัพ ‘ปูทหาร’ ยึดหาดเจ้าไหม

ปรากฏการณ์ธรรมชาติสุดอลังการ “ปูทหาร” นับแสนตัว โผล่บนชายหาดอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ช่วงน้ำลง สร้างภาพงดงามแปลกตา สะท้อนความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ

 

 

ปูทหาร (Soldier Crab) เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและนักอนุรักษ์ ด้วยพฤติกรรมอันน่าทึ่งและการปรากฏตัวเป็นฝูงใหญ่บนชายหาด โดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งที่พบปูทหารจำนวนมากในประเทศไทย เพจอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้โพสต์ภาพ ปูทหาร จำนวนมาก อาศัยช่วงเวลาน้ำลง 11 ค่ำ ถึง 3 ค่ำ พากันออกมาหากิน ซึ่งการพบเจอปูทหารในพื้นที่จำนวนมาก ไม่ได้เป็นปรากฏการผิดธรรมชาติ หรือลางบอกเหตุแต่อย่างใด เป็นเรื่องปกติในพื้นที่

 

แต่ปรากฏการณ์นี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศชายฝั่ง แต่ยังเป็นตัวอย่างของความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ดึงดูดผู้คนให้มาสัมผัสและศึกษา

ปรากฎการณ์ธรรมชาติปูทหารยึดหาดเจ้าไหม ขอบคุณภาพ เพจอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม

ลักษณะและพฤติกรรมของปูทหาร

 

ปูทหาร (ชื่อวิทยาศาสตร์: Mictyris spp.) เป็นปูทะเลขนาดเล็กในวงศ์ Mictyridae มีกระดองกลมขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร สีสันสดใสหลากหลาย เช่น ชมพู เหลือง เขียว ส้ม หรือแดง โดยสีที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับเพศและอายุ เพศผู้มักมีสีเข้มและตัวใหญ่กว่าเพื่อดึงดูดเพศเมีย ปูทหารมีพฤติกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ โดยอาศัยอยู่ในรูเล็กๆ ที่ขุดขึ้นเองบริเวณเขตน้ำขึ้นน้ำลงปานกลางของชายหาดที่มีพื้นเลนปนทราย ซึ่งพบได้ทั่วไปในแถบอินโด-แปซิฟิก รวมถึงประเทศไทย

 

ในช่วงน้ำลง ปูทหารจะออกจากรูเพื่อหากิน โดยใช้ก้ามช้อนทรายขึ้นมาที่ปากแล้วกรองซากพืช ซากสัตว์ หรือแพลงก์ตอนในทรายเป็นอาหาร ด้วยความเร็วสูงจนเกิดเป็นก้อนทรายกลมๆ ซึ่งเป็นลักษณะเด่นที่ทำให้บางครั้งถูกเรียกว่า “Sand-Bubbler Crab” เมื่อน้ำขึ้นหรือมีภัยคุกคาม เช่น นกหรือมนุษย์ ปูทหารจะรีบหนีลงรูและใช้ทรายปิดปากรูอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันตัวเอง ซึ่งเป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอดที่น่าทึ่ง ในแต่ละรูจะมีปูทหารเป็นเจ้าของเพียงตัวเดียว หากปูตัวอื่นหลงลงรูผิด เจ้าของรูจะรีบไล่ออกทันทีเพื่อรักษาอาณาเขตของตน

 

ปรากฏการณ์ปูทหารที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม

 

อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง เป็นหนึ่งในสถานที่ที่พบปูทหารในจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณชายหาดที่มีพื้นเลนปนทราย เช่น เขาแบนะ (หาดฉางหลาง) หาดปากเมง หาดหยงหลิง หาดยาว และหาดวิวาห์ ปรากฏการณ์ฝูงปูทหารนับแสนถึงนับล้านตัวโผล่ขึ้นมาบนชายหาดในช่วงน้ำลง โดยเฉพาะช่วงข้างขึ้น 11 ค่ำ ถึงข้างแรม 3 ค่ำ เป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก

 

ในช่วงวันที่ 25-26 มิถุนายน 2568 มีรายงานว่า นักท่องเที่ยวจำนวนมากแห่มาชมกองทัพปูทหารที่เขาแขนะ หลังจากน้ำทะเลลดลงต่ำสุด ฝูงปูทหารจะเดินเรียงแถวหรือรวมตัวเป็นกลุ่มใหญ่ ทำให้ผืนทรายกลายเป็นสีชมพูหรือหลากสีสัน สร้างความสวยงามแปลกตา

 

นายปทุม พงศกรเฟื่องฟู หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ระบุว่า การพบปูทหารจำนวนมากเป็นเรื่องปกติและไม่ใช่ปรากฏการณ์ผิดธรรมชาติหรือลางบอกเหตุใดๆ แต่เป็นสัญญาณของความสมบูรณ์ของระบบนิเวศในพื้นที่ ซึ่งปราศจากมลพิษจากโรงงานและสารเคมี อีกทั้งไม่มีนกกระยางหรือสัตว์นักล่าอื่นๆ เข้ามารบกวน ทำให้ประชากรปูทหารเพิ่มขึ้นทุกปี

ปรากฎการณ์ธรรมชาติปูทหารยึดหาดเจ้าไหม ขอบคุณภาพ เพจอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม

ความสำคัญของปูทหารต่อระบบนิเวศ

 

ปูทหารมีบทบาทสำคัญในฐานะ “นักทำความสะอาดชายหาด” ด้วยพฤติกรรมการกรองทรายเพื่อหาอาหาร พวกมันช่วยกำจัดซากพืช ซากสัตว์ และอินทรียวัตถุต่างๆ ซึ่งช่วยรักษาความสะอาดและความสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่ง นอกจากนี้ การขุดรูและการสร้างก้อนทรายยังช่วยเติมอากาศให้กับดินทรายและส่งเสริมการหมุนเวียนของสารอาหารในพื้นดิน การที่ปูทหารสามารถดำรงชีวิตและขยายพันธุ์ได้ในจำนวนมากแสดงถึงความสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ

 

ความท้าทายและการอนุรักษ์

 

ถึงแม้ว่าปูทหารจะพบได้ทั่วไปในหลายพื้นที่ของประเทศไทย เช่น ชายหาดคลองทรายดินแดงน้อย จังหวัดกระบี่ และหาดปากบารา จังหวัดสตูล แต่การเปลี่ยนแปลงของชายหาดจากการพัฒนาในด้านต่างๆ เช่น การท่องเที่ยวหรือการก่อสร้าง อาจส่งผลกระทบต่อแหล่งที่อยู่อาศัยของปูทหาร ตัวอย่างเช่น ในปี 2565 มีรายงานว่าคราบน้ำมันรั่วที่จังหวัดระยองส่งผลให้ปูทหารตายในรูของมันเอง เนื่องจากน้ำมันลอยเข้าไปปิดปากรู การอนุรักษ์ปูทหารจึงจำเป็นต้องเน้นการรักษาสภาพแวดล้อมชายหาดให้ปราศจากมลพิษและการรบกวนจากกิจกรรมมนุษย์

 

 

อ้างอิง :

  • อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม

Related posts

‘เอเชียร้อนจัด’ อุณหภูมิพุ่ง 2 เท่าของโลก เตือนภัยวิกฤตสภาพอากาศ

‘แผ่นดินไหว’ เขย่าอันดามัน 15 ครั้ง ในวันเดียว จับตาสัญญาณภัยครั้งใหญ่

NASA แจงชัด ‘วันสิ้นโลก’ คือเมื่อไร ตัวการร้ายคือ ‘ดวงอาทิตย์’