27 ก.ย. ‘วันท่องเที่ยวโลก’ ท่องโลกอย่างยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

27 กันยายน “วันท่องเที่ยวโลก” (World Tourism Day) ปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “การท่องเที่ยวและการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน” เที่ยวอย่างไรให้อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations World Tourism Organization: UNWTO) ได้กำหนดให้วันที่ 27 กันยายน ของทุกปีเป็น “วันท่องเที่ยวโลก” (World Tourism Day) โดยได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2523 จากมติเห็นชอบของที่ประชุมเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2522 เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงบทบาทและความสำคัญของการท่องเที่ยว ที่ส่งผลกระทบต่อสังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และมูลค่าทางเศรษฐกิจที่มีต่อการท่องเที่ยวทั่วโลก

การท่องเที่ยวไม่เพียงแต่เป็นการพักผ่อนหรือสำรวจสถานที่ใหม่ๆ แต่ยังเป็นพลังสำคัญที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม วันท่องเที่ยวโลกในแต่ละปี จะมีธีมที่แตกต่างกัน เช่น การท่องเที่ยวเพื่อสันติภาพ การท่องเที่ยวยั่งยืน หรือการท่องเที่ยวและนวัตกรรม ซึ่งช่วยเน้นย้ำเป้าหมายในการพัฒนาการท่องเที่ยวให้สมดุลและครอบคลุม

วันท่องเที่ยวโลก 2025

วันท่องเที่ยวปีนี้ จัดที่เมืองมะละกา ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 27 กันยายน ภายใต้แนวคิด “การท่องเที่ยวและการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน” (Tourism and Sustainable Transformation) เพื่อเน้นย้ำถึงศักยภาพของการท่องเที่ยวในการเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในระดับโลก.

มาเลเซียตั้งอยู่ท่ามกลางชายหาดอันบริสุทธิ์และป่าฝนโบราณ เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกชั้นนำด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่นำคุณค่าของแนวทางปฏิบัติอย่างยั่งยืนมาแปลงเป็นผลิตภัณฑ์และบริการด้านการท่องเที่ยวที่น่าดึงดูด

มาเลเซียได้ทำงานอย่างหนัก เพื่อวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในช่วงหลายปีหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ซึ่งดึงดูดความสนใจของนักเดินทางที่แสวงหาพื้นที่เปิดโล่งและประสบการณ์ที่อิงธรรมชาติ โอเอซิสสีเขียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ประกอบด้วยป่าไม้ 50%และอุทยานแห่งชาติและเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ 14% และเป็นหนึ่งใน17 ประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมระดับโลก

ความสำคัญของการท่องเที่ยวที่เน้นสิ่งแวดล้อม

การท่องเที่ยวที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมุ่งเน้นการเดินทางที่ลดผลกระทบต่อธรรมชาติ ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากร และสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามแนวคิดของ UNWTO ที่ต้องการให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและสร้างความสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติแนวปฏิบัติสำหรับการท่องเที่ยวที่เน้นสิ่งแวดล้อมเลือกจุดหมายปลายทางที่ยั่งยืน: เลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนโยบายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น อุทยานแห่งชาติ เขตสงวนชีวภาพ หรือชุมชนที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

  • ลดการใช้ทรัพยากร: ใช้ขวดน้ำหรือภาชนะที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ หลีกเลี่ยงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และเลือกที่พักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น โรงแรมที่ใช้พลังงานหมุนเวียน
  • สนับสนุนชุมชนท้องถิ่น: ซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากชุมชนท้องถิ่น เช่น อาหารพื้นบ้าน หรือผลิตภัณฑ์งานฝีมือ เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน
  • เคารพธรรมชาติ: ไม่ทิ้งขยะ ไม่รบกวนสัตว์ป่า และปฏิบัติตามกฎของสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ไม่เก็บปะการังหรือพืชพรรณ
  • ลดการปล่อยคาร์บอน: เลือกเดินทางด้วยวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น รถสาธารณะ จักรยาน หรือเดินเท้าเมื่อเป็นไปได้

การท่องเที่ยวเน้นสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย

ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มากมาย เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ดอยอินทนนท์ หรือเกาะลันตา ซึ่งมีการจัดการท่องเที่ยวที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สนับสนุนโครงการต่าง ๆ เช่น “ท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ” ที่ส่งเสริมให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และโครงการชุมชนท่องเที่ยวสีเขียว เช่น บ้านแม่กำปองในเชียงใหม่ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้วิถีชีวิตท้องถิ่นและช่วยอนุรักษ์ป่าไม้

Related posts

รวมพลังจิตอาสา ‘ซีแอนด์จี makeover’ โรงเรียนชวดบัว นครนายก

ศูนย์ราชการฯ ดันสู่เมืองอัจฉริยะสีเขียว เพิ่ม ‘รถไฟฟ้า’ 12 คัน บริการฟรี

สภาล่ม 1 เสียง ‘พ.ร.บ.อากาศสะอาด’ ชะงัก สิทธิหายใจถูกทิ้งกลางทาง