ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ เดินหน้าสู่เมืองอัจฉริยะสีเขียว เพิ่ม “รถไฟฟ้า” EV Shuttle Bus เป็น 12 คัน เริ่ม 1 ต.ค. 68 ให้บริการรับ-ส่งฟรี สะดวก ปลอดภัย ลดมลพิษ เพื่อตอบสนองผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
กรุงเทพฯ, 29 กันยายน 2568 – ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ ประกาศเพิ่มรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (EV Shuttle Bus) อีก 6 คัน รวมเป็น 12 คัน เพื่อให้บริการรับ-ส่งฟรี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป การเพิ่มจำนวนรถครั้งนี้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่มาติดต่อราชการ
ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (DAD) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการรถ EV Shuttle Bus เฉลี่ยวันละ 4,770 คน โดยจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีหน่วยงานย้ายเข้ามาปฏิบัติงานที่อาคาร C มากขึ้น รถโดยสารไฟฟ้าจะให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00–19.00 น. ทุกวัน (ยกเว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์) ครอบคลุมเส้นทางจากซอยแจ้งวัฒนะ 5, ซอยแจ้งวัฒนะ 7, ทางเดิน Sky Walk ไปยังอาคาร A, B, C และอาคารจอดรถ Dการเพิ่มรถ EV Shuttle Bus เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ “Green Government Complex” ที่มุ่งพัฒนาศูนย์ราชการฯ สู่การเป็นเมืองอัจฉริยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Smart & Green City) โดยมีเป้าหมายลดมลพิษทางอากาศ เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยให้ผู้ใช้บริการ และสอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการรถ EV Shuttle Bus
วัตถุประสงค์ของโครงการ
1. โครงการ EV Shuttle Bus เริ่มต้นเพื่อสนับสนุนการเดินทางภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางและมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก การใช้รถพลังงานไฟฟ้าช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดตามนโยบายของรัฐบาล
2.ลักษณะของรถ EV Shuttle Bus
- รถโดยสารไฟฟ้าเป็นยานพาหนะที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ไม่มีการปล่อยมลพิษ
- ออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่ศูนย์ราชการฯ รองรับผู้โดยสารจำนวนมาก
- มีระบบที่ทันสมัย ปลอดภัย และสะดวกสบาย เช่น ที่นั่งสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้พิการ
3.ผลกระทบและประโยชน์
- สิ่งแวดล้อม: ลดมลพิษทางอากาศและเสียง ช่วยให้ศูนย์ราชการฯ เป็นพื้นที่สีเขียว
- ความสะดวก: ลดปัญหาการจราจรภายในศูนย์ราชการฯ และช่วยประหยัดเวลาให้ผู้ใช้บริการ
- เศรษฐกิจ: ลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงและบำรุงรักษาเมื่อเทียบกับรถโดยสารที่ใช้น้ำมัน
- สังคม: ส่งเสริมภาพลักษณ์ศูนย์ราชการฯ ในฐานะต้นแบบเมืองอัจฉริยะและยั่งยืน
โครงการนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึงเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ศูนย์ราชการฯ ถือเป็นตัวอย่างสำคัญในการนำร่องการใช้ EV ในหน่วยงานภาครัฐ