‘ภาวะ Political Stress Syndrome’ ภัยเงียบจากความเครียดทางการเมือง

The man sitting in the corner of the room has emotional and mental problems He has depression and stress from society and work. medical concept.

 

สถานการณ์การเมืองที่ร้อนแรงและมลพิษทางข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ กำลังก่อให้เกิด “ภาวะ Political Stress Syndrome” (PSS) กรมสุขภาพจิตแนะ 5 วิธีรับมือ เพื่อปกป้องสุขภาพจิต 

 

 

ในยุคที่การเมืองเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และสื่อสังคมออนไลน์เต็มไปด้วยความขัดแย้ง “ภาวะ Political Stress Syndrome” (PSS) หรือความเครียดจากการเมือง กำลังกลายเป็นภัยเงียบที่กระทบสุขภาพจิตและร่างกายของคนไทย โดยเฉพาะผู้ที่ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด หรือมีความเห็นทางการเมืองที่ชัดเจน ภาวะนี้ไม่ใช่โรคจิตเวช แต่เป็นปฏิกิริยาทางอารมณ์และร่างกายที่ อาจนำไปสู่ผลกระทบร้ายแรงหากไม่ได้รับการจัดการ

 

Political Stress Syndrome คืออะไร?

 

ภาวะ Political Stress Syndrome คือความเครียดหรือความไม่สบายใจที่เกิดจากการรับรู้ข้อมูลทางการเมือง เช่น การถกเถียงที่รุนแรง การเปลี่ยนแปลงนโยบาย หรือความขัดแย้งในสื่อสังคมออนไลน์ นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้ข้อมูลว่า ภาวะนี้พบมากในกลุ่มที่หมกมุ่นกับข่าวการเมือง หรือมีอคติทางการเมือง การศึกษาใน Journal of Psychosocial Nursing (2023) ชี้ว่า PSS สามารถกระตุ้นความเครียดเรื้อรัง ซึ่งส่งผลต่อทั้งสุขภาพจิตและร่างกาย โดยในประเทศไทย สถิติจากกรมสุขภาพจิต (2562) รายงานว่า การโทรปรึกษาสายด่วน 1323 เกี่ยวกับความเครียดจากการเมืองเพิ่มขึ้น 68% ในช่วงวิกฤตการเมือง

 

Political Stress Syndrome อาการและผลกระทบ

 

  • ร่างกาย: ปวดตึงขมับหรือคอ หายใจไม่อิ่ม ใจสั่น นอนไม่หลับ หรือแน่นท้อง
  • จิตใจ: หงุดหงิด โกรธง่าย เบื่อหน่าย ฟุ้งซ่าน หรือหมกมุ่นกับข้อมูลการเมือง
  • พฤติกรรม: โต้แย้งด้วยอารมณ์หรือใช้ถ้อยคำรุนแรง ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งในครอบครัวหรือชุมชน

 

ผลกระทบของ PSS อาจรุนแรงถึงขั้นทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล หรือความสัมพันธ์แตกแยก ตามที่ Nation Thailand (2567) ระบุว่า 15.5% ของคนไทยมีระดับความเครียดสูง และ 10.6% มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายในช่วงการเมืองร้อนแรง การสื่อสารที่รุนแรงในสื่อสังคมออนไลน์ยังสร้างบรรยากาศความเกลียดชัง กระทบต่อผู้ส่งสาร ผู้รับสาร และสังคมโดยรวม

 

Political Stress Syndrome สาเหตุ

 

  • มลพิษทางข้อมูล: ข้อมูลเท็จหรือถ้อยคำยั่วยุในสื่อสังคมออนไลน์กระตุ้นความโกรธและความเครียด
  • การบริโภคสื่อมากเกินไป: การติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผ่านสมาร์ทโฟน ทำให้เกิดความเครียดสะสม (Bangkok Post, 2566)
  • ความขัดแย้งทางความคิด: ความเห็นที่แตกต่างในครอบครัวหรือชุมชนออนไลน์
  • บริบทสังคมไทย: วัฒนธรรมที่ไม่นิยมแสดงความเครียดอาจทำให้ผู้คนเก็บกดและไม่ขอความช่วยเหลือ

 

ความเชื่อมโยงกับมลพิษและความชราก่อนวัย

 

ความเครียดจาก PSS มีส่วนเร่งความชราก่อนวัย (premature aging) ผ่านการหลั่งคอร์ติซอล ซึ่งทำลายเซลล์และทำให้เทโลเมียร์ (ส่วนป้องกันดีเอ็นเอ) สั้นลง (Nature Reviews Genetics, 2020) นอกจากนี้ มลพิษทางแสงจากการใช้หน้าจอในเวลากลางคืนเพื่อติดตามข่าวรบกวนการนอนหลับ ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง ส่งผลให้ร่างกายและจิตใจเสื่อมโทรมเร็วขึ้น คล้ายกับผลกระทบจากมลพิษต่อหิ่งห้อยเบธานีบีชที่สูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัยจากมลภาวะและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

 

แนวทางรับมือจากกรมสุขภาพจิต

 

  • รู้เท่าทันอารมณ์: สังเกตอารมณ์ขณะรับข่าวสารเพื่อควบคุมปฏิกิริยา
  • จำกัดเวลาติดตามข่าว: กำหนดเวลา เช่น วันละ 30 นาที เพื่อลดการหมกมุ่น
  • ดำรงชีวิตสมดุล: รักษากิจวัตรประจำวัน เช่น ทำงาน ออกกำลังกาย และพักผ่อน
  • เคารพความหลากหลาย: รับฟังความเห็นที่แตกต่างโดยไม่ตัดสิน
  • ผ่อนคลาย: ฝึกหายใจลึก ทำสมาธิ หรือโยคะเพื่อลดความเครียด

 

หากอาการรุนแรง ควรติดต่อสายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน การลดการใช้สื่อสังคมออนไลน์และเลือกแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือก็ช่วยลดความเครียดได้ (Medical News Today, 2024)

 

Political Stress Syndrome เป็นผลจากมลพิษทางข้อมูลและความขัดแย้งทางการเมืองที่กระทบสุขภาพจิตและร่างกายของคนไทย การรู้เท่าทันอารมณ์ จำกัดการบริโภคสื่อ และผ่อนคลายอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเครียดและป้องกันความชราก่อนวัย การปกป้องสุขภาพจิตในยุคการเมืองร้อนแรงต้องเริ่มจากการตระหนักและลงมือปฏิบัติ หากต้องการความช่วยเหลือ สายด่วน 1323 พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

Related posts

บุกทลายนิคมศูนย์เหรียญ ซุก ‘ขยะพิษ’ 8,000 ตัน 

กรมอุทยานฯ ถก Thailand-WEN สกัดค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ 

16 มิ.ย. ‘วันเต่าทะเลโลก’ ร่วมอนุรักษ์-ปกป้อง ‘เต่าทะเล’