“เอกนัฏ” ส่งทีม “สุดซอย” ทลายอาณาจักรรีไซเคิลศูนย์เหรียญปราจีนบุรี พบซุกขยะพิษ 8,000 ตัน สั่งปิดกิจการทันที พร้อมเตรียมส่งดีเอสไอเป็นคดีพิเศษ
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และหัวหน้าชุดตรวจการณ์ “สุดซอย” ของกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.), กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.), มูลนิธิบูรณะนิเวศ, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี และหน่วยงานอื่น ๆ เข้าตรวจสอบบริษัท เซ็ตเมทอล จำกัด ตั้งอยู่ที่เลขที่ 301 หมู่ที่ 3 ตำบลกรอกสมบูรณ์ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งประกอบกิจการหลอมหล่อโลหะ เช่น อะลูมิเนียมและทองแดง
ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวเคยถูกสั่งให้ปิดปรับปรุงชั่วคราว เนื่องจากประกอบกิจการไม่เป็นไปตามใบอนุญาต แต่มีรายงานว่ายังคงมีการลักลอบดำเนินกิจการต่อ นายเอกนัฏจึงสั่งการให้ทีมสุดซอยลงพื้นที่ตรวจสอบทันที ผลการตรวจสอบพบว่า บริษัท เซ็ตเมทอลฯ มีการกระทำผิดกฎหมายหลายประการ รวมถึงการลักลอบเดินเครื่องรีไซเคิลสายไฟ, ครอบครองวัตถุอันตรายกว่า 8,000 ตัน โดยไม่ได้รับอนุญาต, และมีพฤติกรรมตั้งตนเป็น “นิคมศูนย์เหรียญ” ซึ่งเป็นการแบ่งพื้นที่ให้เช่าเพื่อประกอบกิจการรีไซเคิลโดยผิดกฎหมาย นายเอกนัฏจึงสั่งให้ปิดกิจการและดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดทันที
นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท เซ็ตเมทอลฯ ซึ่งมีนางจันจิรา สุขสถิต และนายหยู-ลี่ หยาง เป็นกรรมการบริษัท มีพื้นที่โกดังทั้งหมด 7 หลัง แบ่งเป็นส่วนที่มีใบอนุญาตโรงงานและส่วนที่ไม่มีใบอนุญาต ระหว่างการตรวจสอบ พบคนงานกำลังเดินเครื่องรีไซเคิลสายไฟ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งระงับกิจการชั่วคราว นอกจากนี้ ยังพบวัตถุอันตรายจำนวนมาก เช่น เศษสายไฟ, ชิ้นส่วนระบบไฟฟ้ารถยนต์, เศษโลหะปนเปื้อนขยะอิเล็กทรอนิกส์, และชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รวมน้ำหนักกว่า 8,000 ตัน ซึ่งทั้งหมดเข้าข่ายเป็นวัตถุอันตรายที่ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า มีรถบรรทุกขนย้ายเศษอิเล็กทรอนิกส์เข้า-ออกโรงงานเฉลี่ยเดือนละกว่า 230 คัน และมีการแบ่งพื้นที่ให้เอกชน 7 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและชาวไต้หวัน เช่าช่วงเพื่อประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต ลักษณะดังกล่าวชี้ชัดว่าเป็น “นิคมศูนย์เหรียญ” ที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดีในข้อหาต่าง ๆ ได้แก่ การประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต, การขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต, การครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต และการฝ่าฝืนคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ พร้อมยึดอายัดของกลางทั้งหมด
นอกจากนี้ บริษัท เซ็ตเมทอลฯ ยังเช่าพื้นที่จากบริษัท พีทีเอส โกลเด้น เมทัล จำกัด ซึ่งไม่ได้ประกอบกิจการแล้ว โดยแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนให้บริษัทชาวจีน 2 รายเช่าช่วงเพื่อคัดแยกเศษโลหะและวัตถุดิบที่ไม่ได้รับอนุญาต เช่น เศษโลหะ, ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า, หม้อแปลงไฟฟ้า, เศษสายไฟ, และแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทั้งหมดเป็นวัตถุอันตราย รวมน้ำหนักกว่า 8,000 ตัน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรีได้ออกคำสั่งให้ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนในส่วนขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมยึดอายัดเครื่องจักร, วัตถุดิบ, ผลิตภัณฑ์ และกากของเสียทั้งหมด
เนื่องจากพบการครอบครองวัตถุอันตรายเกิน 50 ตัน ซึ่งเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ ทางทีมสุดซอยจึงเตรียมนำส่งเรื่องไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ทีมสุดซอยได้สรุปข้อมูลเพื่อทบทวนการออกใบอนุญาตโรงงานประเภทรีไซเคิลที่อาจมีมากเกินความจำเป็น เพื่อป้องกันและกำจัดปัญหาการตั้ง “อาณาจักรศูนย์เหรียญ” ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของชุมชนและประเทศไทยในระยะยาว