‘สารหนู’ 0.01 มก./ล. นักวิชาการถาม ทำไมน้ำผิวดินไทยเท่าเกณฑ์น้ำดื่ม?

ARSENIC CONTAMINATION IN DRINKING WATER - Alertness about dangerous Arsenic - Concept with magnifying glass

นักวิชาการตั้งคำถาม มาตรฐาน “สารหนู” น้ำผิวดินไทย เทียบเท่า “น้ำดื่ม” 0.01 มก./ล. ถูกต้องแล้วหรือ? ชี้ขัดแย้งเกณฑ์สากล สะท้อนปัญหาเจรจากับเพื่อนบ้าน

นับตั้งแต่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ได้ออกมายืนยันอย่างชัดเจน ว่า รัฐบาล ไม่มีแนวคิด ที่จะปรับแก้ค่ามาตรฐานสารหนูในแหล่งน้ำผิวดินของประเทศไทย จากค่ามาตรฐานปัจจุบัน ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร (มก./ล.) ไปเป็น 0.05 มก./ล. ตามที่มีกระแสข่าวเผยแพร่ก่อนหน้านี้

การวัดค่ามาตรฐานสารหนู

การยืนยันดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากมีการตรวจพบโลหะหนักและสารหนูเกินค่ามาตรฐานในแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำแม่กก ลำน้ำสาขา แม่น้ำสาย แม่น้ำโขง และแม่น้ำสาละวิน ซึ่งค่ามาตรฐาน 0.01 มก./ล. ของไทยในปัจจุบัน เป็นค่าที่เทียบเท่ากับ ค่าน้ำดื่ม เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน

นายสุชาติเน้นย้ำว่า รัฐบาลพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและทุกภาคส่วน เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหามลพิษร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยต่อการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพ และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว การกำหนดมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมมีเป้าหมายหลักในการ ควบคุมมลพิษ ปกป้องระบบนิเวศ และลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างยั่งยืน โดยรัฐบาลจะสนับสนุนการดำเนินงานและอาจพิจารณาออกมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่ เข้มข้นขึ้น ด้วยซ้ำ

มาตรฐานสารหนู: น้ำผิวดิน ไทยต้องเท่า น้ำดื่ม?

อย่างไรก็ตาม อาจารย์สนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ได้ตั้งข้อสังเกตและวิเคราะห์เกี่ยวกับค่ามาตรฐานสารหนูในน้ำผิวดินของประเทศไทยว่า อาจมีความคลาดเคลื่อน เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์สากล โดยระบุว่า องค์การอนามัยโลก (WHO), องค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งอเมริกา (US. EPA), ไต้หวัน, จีน, ญี่ปุ่น และกรมอนามัยของไทย กำหนดค่าสารหนูในน้ำดื่ม (Drinking water) ไว้ที่ ไม่เกิน 0.01 มก./ล. (หรือ 10 ไมโครกรัมต่อลิตร) ซึ่งเป็นค่าเดียวกับที่กรมควบคุมมลพิษของไทยกำหนดเป็นมาตรฐาน คุณภาพน้ำผิวดิน

อาจารย์สนธิชี้ให้เห็นว่า ในทางกลับกัน องค์กร US.EPA กำหนดค่าสารหนูสำหรับน้ำผิวดินเพื่อการปศุสัตว์และการชลประทาน ไว้ที่ ไม่เกิน 1.0 มก./ล. ขณะที่ จีน ญี่ปุ่น และเมียนมา กำหนดคุณภาพน้ำผิวดิน ไว้ที่ ไม่เกิน 0.05 มก./ล. ซึ่งการที่กรมควบคุมมลพิษของไทย ไปกำหนดค่ามาตรฐานน้ำผิวดินให้เท่ากับมาตรฐานน้ำดื่ม ทำให้เกิดคำถามว่า “กระทรวง ทส. กำหนดมาตรฐานผิดหรือเปล่า?” เนื่องจากโดยปกติแล้ว ระบบประปาจะต้องมีกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำจากน้ำผิวดินให้สามารถดื่มได้ตามมาตรฐาน

อาจารย์สนธิ ระบุว่า การที่สารหนูในแหล่งน้ำผิวดินของไทย มีค่าไม่เกิน 0.05 มก./ล. ถือว่า ไม่เกินมาตรฐาน ของสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และเมียนมา ซึ่งเป็นสาเหตุที่เมื่อมีการเจรจาในคณะกรรมการแม่น้ำโขง ประเทศเพื่อนบ้านอาจไม่ยอมรับข้อเรียกร้องของไทย เนื่องจากมาตรฐานของเราเข้มงวดกว่าของเขามาก การเจรจาจึงควรเน้นไปที่ การขอให้ระวังและป้องกันไม่ให้มีการปล่อยน้ำเสียที่มีสารหนูออกมาจากการทำเหมืองแร่ที่ไม่ถูกต้อง ของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหา มากกว่าการถกเถียงเรื่องค่ามาตรฐานที่แตกต่างกัน

อ้างอิง :

Related posts

กดดัน ‘อนุทิน’ เร่งถกเมียนมา ลาว จีน แก้สารพิษปนเปื้อนแม่น้ำกก-สาย

16 พ.ย. ‘วันพิทักษ์มรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติของโลก’

ไม่ลดมาตรฐาน ‘สารหนู’ ยัน 0.01 มก./ล. คงเดิม พร้อมเข้มกฎสิ่งแวดล้อม