สมาคมโรงงานน้ำตาล ป้อง ‘อ้อย’ ไม่ใช่ ‘จำเลยสังคม’ ปมฝุ่น PM2.5

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อสงสัยว่า “การเผาอ้อย” เป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย (TSMC) ได้ออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริงเพื่อปกป้องเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยย้ำว่า อ้อยไม่ใช่ต้นตอหลักของปัญหาที่เกิดขึ้น

นายรังสิต เฮียงราช เลขานุการคณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย (TSMC) ชี้แจงว่า ฤดูการหีบอ้อยประจำปี 2568 เพิ่งเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 2 ธันวาคม 2568 โดยข้อมูล ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2568 มีโรงงานน้ำตาลเพียง 8 แห่ง จากทั้งหมด 58 แห่งเท่านั้นที่เริ่มเดินเครื่องจักร และโรงงานทั้ง 8 แห่งนี้มีการรับอ้อยสดมากถึง 99.7% นอกจากนี้ ภาครัฐยังขอความร่วมมือให้โรงงานรับอ้อยไฟไหม้ไม่เกิน 5% ของปริมาณอ้อยทั้งหมดในช่วงก่อนวันเด็กแห่งชาติ ตัวเลขเหล่านี้จึงเป็นเครื่องยืนยันและก่อให้เกิดคำถามว่าปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นในขณะนี้มีต้นตอมาจากการเผาอ้อยจริงหรือไม่

รังสิต เฮียงราช เลขานุการคณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย (TSMC)

ในฐานะองค์กรที่เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของประเทศไทย TSMC พร้อมร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ในการปฏิบัติตามแนวทางที่สำนักงานอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรณรงค์และส่งเสริมให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยหันมา “ตัดอ้อยสด” อย่างจริงจัง ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการทำเกษตรสมัยใหม่ การใช้รถตัดอ้อย และการรับซื้อใบอ้อยเพื่อไปผลิตเป็นไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งทั้งหมดนี้คือมาตรการที่ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืน

นายรังสิตกล่าวย้ำว่า ตัวเลขการรับอ้อยสดที่สูงถึง 99.7% สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงในการจัดการปัญหา และยืนยันว่า อุตสาหกรรมนี้มีความโปร่งใสและมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม

สอน. ผนึก ธ.ก.ส. โรงงานน้ำตาล อัดฉีด 6,000 ล้านบาท แก้ปัญหาการเผา

ด้าน นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 3 ฝ่าย ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และโรงงานน้ำตาล 52 แห่ง ภายใต้ โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยฯ ปี 2568 – 2570 วงเงินรวม 6,000 ล้านบาท

โครงการนี้เป็นโครงการต่อเนื่องเป็นระยะที่ 4 เพื่อให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อบริหารจัดการแหล่งน้ำ ปรับพื้นที่ และจัดซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรในไร่อ้อย โดยเฉพาะ รถตัดอ้อย เพื่อทดแทนแรงงานคนและสอดคล้องกับมาตรการแก้ไขปัญหาการเผาอ้อย โดยที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ชาวไร่อ้อยรวมแล้วกว่า 4,654 ราย เป็นเงิน 11,162.91 ล้านบาท

โครงการระยะที่ 4 นี้ มีวงเงินปีละ 2,000 ล้านบาท รวม 3 ปี เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี โดยมีเงื่อนไขให้โรงงานน้ำตาลเป็นผู้ค้ำประกัน ชาวไร่อ้อยจ่ายดอกเบี้ยเพียง 2% และรัฐบาลเป็นผู้ชดเชยดอกเบี้ยให้กับ ธ.ก.ส. นายใบน้อยกล่าวทิ้งท้ายว่า สอน. มุ่งหวังให้โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการเผาอ้อยให้มีความยั่งยืน โดยผลักดันให้เปลี่ยนจากการใช้แรงงานคนสู่การใช้เครื่องจักรกลการเกษตร และขอเชิญชวนเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่โรงงานน้ำตาลที่ตนเองมีสัญญาส่งอ้อยเข้าหีบ หรือ ธ.ก.ส. สาขาใกล้บ้าน

Related posts

11 ธ.ค. ‘วันภูเขาสากล’ ตระหนักถึง ‘หอคอยน้ำ’ หัวใจของระบบนิเวศโลก

รู้จัก ‘ชยันต์ เมืองสง’ แม่ทัพน้ำคนใหม่ หวนคืนถิ่นคุม สทนช.

ครม. เคาะปรับมาตรการ EV3–EV3.5 ป้องกันรถไฟฟ้าล้นตลาด