22 กันยายน ‘วันคาร์ฟรีเดย์’ (Car Free Day) ปลอดรถ ลดมลพิษ

by Pom Pom

22 กันยายน “วันปลอดรถ” (Car Free Day) ชวนทุกคนลดใช้รถยนต์ หันมาเดิน ปั่นจักรยาน หรือใช้ขนส่งสาธารณะ เพื่อเมืองที่น่าอยู่และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

วันปลอดรถ หรือ วันคาร์ฟรีเดย์ (Car Free Day) เป็นกิจกรรมระดับโลก ที่จัดขึ้นทุกวันที่ 22 กันยายน เพื่อรณรงค์ให้ผู้คนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวและหันมาใช้การเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น การเดิน ปั่นจักรยาน หรือใช้ระบบขนส่งสาธารณะ กิจกรรมนี้เริ่มต้นครั้งแรกในยุโรปช่วงทศวรรษ 1990 และได้รับความนิยมแพร่หลายในหลายเมืองทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการลดมลพิษทางอากาศและสร้างเมืองที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น

ความสำคัญของวัน Car Free Day

วันคาร์ฟรีเดย์ มีเป้าหมายหลักในการสร้างความตระหนักถึงผลกระทบจากการใช้รถยนต์ส่วนตัวที่มีต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมให้เมืองต่างๆ มีโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการเดินทางแบบยั่งยืน เช่น ทางจักรยานและทางเท้าที่ปลอดภัย

การลดการใช้รถยนต์ในวันนี้ ยังช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัด ลดมลพิษทางเสียง และส่งเสริมสุขภาพของประชาชนจากการเดิน หรือปั่นจักรยาน ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ดี อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สร้างความสามัคคีและตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม

กิจกรรมในวัน Car Free Day

ในหลายเมืองทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย วันคาร์ฟรีเดย์มีการจัดกิจกรรมหลากหลาย เช่น:

  • ปิดถนนเพื่อจัดงาน: บางพื้นที่ปิดถนนสายหลักเพื่อให้ประชาชนเดิน ปั่นจักรยาน หรือจัดงานรณรงค์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
  • ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ: มีการให้บริการรถโดยสารสาธารณะฟรีหรือลดราคาในบางเมือง เพื่อจูงใจให้คนลดการใช้รถยนต์
  • กิจกรรมชุมชน: การจัดขบวนปั่นจักรยาน ตลาดนัดสีเขียว หรือนิทรรศการเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
  • รณรงค์ผ่านสื่อ: การใช้สื่อสังคมออนไลน์และสื่อต่างๆ เพื่อเผยแพร่แนวคิดและประโยชน์ของการลดใช้รถยนต์

วันคาร์ฟรีเดย์ในประเทศไทย

ในประเทศไทย วันคาร์ฟรีเดย์ได้รับความสนใจจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และชุมชน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่เช่น กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ และขอนแก่น ซึ่งมีการจัดกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น กรุงเทพมหานครเคยจัดงาน “กรุงเทพฯ เมืองปลอดรถ” โดยปิดถนนบางสายเพื่อให้ประชาชนได้สัมผัสประสบการณ์เมืองที่ปราศจากรถยนต์ และส่งเสริมให้ใช้รถไฟฟ้า รถเมล์ หรือจักรยาน

แต่ความท้าทายในประเทศไทยคือ โครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่เอื้ออำนวยต่อการเดินทางแบบยั่งยืนในบางพื้นที่ เช่น ทางเท้าที่ไม่สะดวก หรือระบบขนส่งสาธารณะที่ยังไม่ครอบคลุม ทำให้การรณรงค์วันคาร์ฟรีเดย์ต้องมาพร้อมกับการผลักดันนโยบายพัฒนาเมืองในระยะยาว

ประเทศที่ใช้จักรยานเป็นพาหนะมากที่สุด

จากข้อมูลสถิติล่าสุด จักรยานเป็นที่นิยมในหลายประเทศ โดยเฉพาะในยุโรปที่มีย่านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับจักรยานที่ดีเยี่ยม ประเทศที่นำหน้าด้วยอัตราการใช้งานจักรยานสูงสุด (วัดจากเปอร์เซ็นต์การเดินทางโดยจักรยานต่อการเดินทางทั้งหมด หรือการใช้งานเป็นประจำ) คือ เนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีอัตราการเดินทางโดยจักรยานสูงถึง 36% ของการเดินทางทั้งหมด และมีจักรยานมากกว่า 1.3 คันต่อคน ตามมาด้วยเดนมาร์กและประเทศอื่นๆ ที่ส่งเสริมวัฒนธรรมการปั่นจักรยานเพื่อลดมลพิษและส่งเสริมสุขภาพ

10 อันดับประเทศที่มีอัตราการใช้งานจักรยานสูง (ข้อมูลจากปี 2022-2025)

  • เนเธอร์แลนด์ โครงสร้างพื้นฐานจักรยานดีที่สุดในโลก วัฒนธรรมปั่นจักรยานตั้งแต่ปี 1911
  • เดนมาร์ก 90% ของประชากรมีจักรยาน 25% ของการเดินทางระยะสั้นใช้จักรยาน
  • ฟินแลนด์ การท่องเที่ยวจักรยานยอดนิยม โดยเฉพาะในเมือง Oulu ที่ 20% ของการเดินทางใช้จักรยาน
  • เยอรมนี ปั่นเพื่อทำงานและพักผ่อนเท่าๆ กัน โครงสร้างพื้นฐานแยกทางจักรยาน
  • โปแลนด์ อัตราการใช้งานสูงในเมืองใหญ่ ส่งเสริมสุขภาพและลดรถยนต์
  • อินเดีย ใช้งานในเมืองเพื่อหลีกเลี่ยงรถติด แม้โครงสร้างพื้นฐานยังพัฒนา
  • บราซิล ใช้งานในเขตเมืองใหญ่เพื่อประหยัดและสุขภาพ
  • ญี่ปุ่น ใช้งานระยะสั้นในโอซาก้าและโตเกียว อันดับ 2-3 ของเมืองที่ปั่นมากที่สุด
  • จีน มีจักรยานมากที่สุดในโลก (500 ล้านคัน) แต่ลดลงจากรถยนต์
  • สวีเดน ส่งเสริมจักรยานในนอร์ดิกเพื่อสิ่งแวดล้อม

Copyright @2021 – All Right Reserved.