ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ผ่านสภาด้วยคะแนนท่วมท้น 309 เสียง หลังถกมาราธอน 7 นัด นานเกือบเดือน ต่อยอดการต่อสู้ของภาคประชาชนตั้งแต่ปี 2562 เพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 และมลพิษข้ามแดน ส่งต่อวุฒิสภาพิจารณาเป็นขั้นสุดท้าย
สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. .. ในวาระที่ 3 ด้วยคะแนน 309 เสียง ไม่มีเสียงคัดค้าน งดออกเสียง 4 เสียง และไม่ลงคะนน 5 เสียง สิ้นสุดกระบวนการถกเถียงยาวนานที่เริ่มมาตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน ก่อนส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณาต่อ
ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ริเริ่มจากภาคประชาชนตั้งแต่ปี 2562 โดยพรรคก้าวไกล (ปัจจุบันคือพรรคประชาชน) เสนอร่าง พ.ร.บ.ฝุ่นพิษและการก่อมลพิษข้ามแดน เมื่อธันวาคม 2566 ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ จนขยายจาก 104 มาตรา ดั้งเดิม เป็นเกือบ 300 มาตรา หลังเพิ่มรายละเอียดย่อยเพื่อรับมือปัญหาฝุ่น PM2.5 และมลพิษข้ามพรมแดนการประชุมวาระ 2 เริ่มวันที่ 24 กันยายน 2568 ใช้เวลานับเดือนเต็ม รวม 7 นัดประชุมมาราธอน โดยพิจารณาและลงมติทีละมาตรา กว่า 317 ครั้ง (รวมข้อสังเกต) ท่ามกลางอุปสรรค เช่น สภาล่มจากองค์ประชุมไม่ครบในช่วงแรก จนต้องเลื่อนหลายครั้ง ส.ส. จากพรรคประชาชนและเพื่อไทยเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อน โดยในนัดล่าสุด (20-21 ต.ค.) พิจารณาต่อเนื่องนานกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อเร่งผ่านวาระทั้งหมด
ประเด็นถกเถียงเด่นๆ ในสภาประกอบด้วย:
- มาตรา 24: ให้ “นายก อบจ.” เป็นประธานคณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด (ผ่าน 237:75 เสียง) เพื่อกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
- มาตรา 30/4: คงอำนาจเจ้าพนักงานอากาศสะอาด (ผ่าน 155:115 เสียง) แม้บางฝ่ายกังวลเรื่องอำนาจเกินขอบเขต
- มาตรา 45/3: ตัดอำนาจรัฐมนตรีกำหนดเขตมลพิษต่ำ ส่งให้กรรมการจังหวัดตัดสิน (ผ่าน 212:66 เสียง) เพื่อความคล่องตัว
นอกจากนี้ ยังผ่านมาตราสำคัญ เช่น กองทุนอากาศสะอาด (9 ต.ค.) เพื่อสนับสนุนมาตรการป้องกันมลพิษ ความรับผิดทางแพ่ง (16 ต.ค.) ชดใช้ค่าเสียหายข้ามแดน โทษอาญาสูงสุดปรับ 100 ล้านบาท/จำคุก 5 ปี และมาตรการ carrot-stick กับผู้ก่อมลพิษ โดยยึดหลัก “ผู้ก่อมลพิษต้องจ่าย” (Polluter Pays Principle) รวมถึงสิทธิสุขภาพกลุ่มเปราะบางและฐานข้อมูลกลางเปิดเผย (Name and Shame)
นับตั้งแต่มีการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. .. โดยพรรคก้าวไกล (ปัจจุบันคือพรรคประชาชน) เมื่อธันวาคม 2566 ต่อยอดข้อเรียกร้องภาคประชาชนตั้งแต่ปี 2562 สู่การลงมติเห็นชอบในวาระที่ 3 ด้วยคะแนน 309 เสียง ไม่มีผู้คัดค้าน งดออกเสียง 4 เสียง และไม่ลงคะแนน 5 เสียง หลังประชุมมาราธอน 7 นัดเกือบเดือน ร่างกฎหมายนี้กำลังจะถูกส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณา
ไทม์ไลน์การพิจารณา
- 2562: ภาคประชาชนเริ่มผลักดันแก้ปัญหามลพิษอากาศ
- ธันวาคม 2566: พรรคก้าวไกลเสนอร่าง พ.ร.บ.ฝุ่นพิษและมลพิษข้ามแดน
- ต้นปี 2568: คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญปรับร่างจาก 104 มาตราเป็นเกือบ 300 มาตรา
- 24 กันยายน 2568: เริ่มพิจารณาวาระ 2 ในสภาฯ รวม 7 นัด ลงมติกว่า 317 ครั้ง ท่ามกลางปัญหาสภาล่มจากองค์ประชุมไม่ครบ
- 9 ตุลาคม 2568: ผ่านมาตราตั้งกองทุนอากาศสะอาด
- 16 ตุลาคม 2568: ผ่านมาตรากำหนดความรับผิดทางแพ่งและโทษอาญาสูงสุดปรับ 100 ล้านบาท/จำคุก 5 ปี
- 20-21 ตุลาคม 2568: ประชุมต่อเนื่องวันละ 10 ชั่วโมง ปิดวาระ 2 และผ่านวาระ 3
ขั้นตอนต่อไป: วุฒิสภาจะพิจารณาภายใน 30-60 วัน คาด บังคับใช้ก่อนสภาสิ้นสมัยมกราคม 2569 ถือเป็นชัยชนะของประชาชนในการต่อสู้ปัญหามลพิษ