Climate Change

  • ภาวะโลกร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้เราเป็นเหมือน “กบถูกต้ม” ที่ความร้อนเดือดมากขึ้นทีละน้อยจนตายไม่รู้ตัว นี่คือข้อมูลล่าสุดที่เราได้มาจากปี 2564 ซึ่งเป็นอีกปีที่ร้อนที่สุดจากเป็นเวลา 7 ปีติดต่อกันที่โลกร้อนไม่หยุดเลย การประเมินประจำปีโดย Copernicus หน่วยงานด้านสภาพอากาศของยุโรปพบว่า 7 ปีที่ผ่านมาร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยที่อุณหภูมิโลกในปี 2564 อยู่ที่ 1.2 องศาเซลเซียสเหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม Copernicus ยังพบว่า ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และก๊าซมีเทนซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ทรงพลังมากนั้นเพิ่มขึ้น “อย่างมาก” ซึ่งเป็นสถิติใหม่เช่นกัน ระดับคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยในปี 2564 ทำสถิติสูงสุดใหม่ก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ 414 …

  • การละลายของชั้นน้ำแข็งถาวรในผืนดินใกล้ขั้วโลก (Permafrost) ไม่ใช่แค่ปัญหาของแถบใกล้ขั้วโลกอีกต่อไป การค้นพบล่าสุด เว็บไซต์ Nature เผยว่า มันส่งผลกระทบไปทั่วโลก Permafrost คือ พื้นดินที่เยือกแข็งตลอดเวลา โดยปกติแล้วหมายถึงมีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสองปีขึ้นไป (ที่จริงแล้วมันจะแข็งยาวนานเป็นหมื่น ๆ ปีก็ได้) ประมาณ 15% ของซีกโลกเหนือหรือ 11% ของพื้นผิวโลกอยู่ภายใต้ชั้นดินเยือกแข็งนี้ ด้วยความที่มันแข็งตัวได้เป็นหมื่น ๆ ปี Permafrost จึงมีชีวมวลจำนวนมาก และชีวมวลที่ย่อยสลายได้ซึ่งถูกเก็บไว้เป็นก๊าซมีเทน และคาร์บอนไดออกไซด์ …

  • ยุโรปหันมาเลิกสนใจกับ “วันหมดอายุ” ที่ปิดไว้บนบรรจุภัณฑ์อาหารในซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะจริง ๆ แล้วมันไม่ได้ “หมดอายุ” วันนั้นทันที แต่ยังสามารรับประทานได้อีกนานหรือไม่ก็สามารถนำมาแปรรูปได้ด้วย iGreen เคยนำเสนอประเด็นอาหารหมดอายุที่ยังบริโภคได้มาอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะมันช่วยลดภาระของโลกในการแบกรับของเสียจากอาหารกินทิ้งกินขว้างที่มีมากถึง 900 ล้านตันต่อปี และคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากคาร์บอนไดออกไซด์จากการทิ้งอาหารเหลือกินอยู่ที่ประมาณ 3,300 ล้านตัน ล่าสุด Morrisons ซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีชื่อเสียงในอังกฤษเตรียมเลิกกำหนดวันหมดอายุกับผลิตภัณฑ์นมเกือบทั้งหมด โดยกล่าวว่าการทำแบบนี้จะช่วยหยุดการเทนมทิ้งหลายล้านลิตรในแต่ละปี เพราะหมดเชื่อว่าถ้ากำหนดวันหมดอายุผู้บริโภคจะไม่กล้าดื่มมัน หลังจากเลิกบอกวันหมดอายุแล้ว Morrisons จะปิดฉลาด ‘best before’ หรือคุณภาพดีที่สุดก่อนวันที่ …

  • ผู้คนทั่วโลกต่างพยายามลดการบริโภคเนื้อสัตว์ลงซึ่งสอดคล้องกระแสมังสวิรัติ (Veganuary) ที่กำลังเป็นที่นิยม รัฐมนตรีของสเปน อัลเบอร์โต การ์ซอน (Alberto Garzón) ก็เป็นหนึ่งที่สนับสนุนการลดบริโภคเนื้อสัตว์เพื่อช่วยโลก โดยได้เปิดตัวแคมเปญ ‘Less meat, more life’ ในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว หวังรณรงค์ให้ชาวสแปนิชหันมารับประทานอาหารที่มีพืชเป็นส่วนประกอบกันมากขึ้น การ์ซอน เรียกร้องให้ชาวสเปนพิจารณาการบริโภคเนื้อสัตว์เสียใหม่ เพราะการทำปศุสัตว์นั้นส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตเนื้อวัวจากฟาร์มขนาดใหญ่ แต่เขากลับสร้างความไม่พอใจให้กับบรรดารัฐมนตรี และอุตสาหกรรมผู้ผลิตเนื้อสัตว์ในประเทศ 6 แห่ง ชาวสเปนรู้ดีว่า ก๊าซเรือนกระจกมีส่วนสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ก็อาจจะเข้าใจว่ามันเชื่อมโยงกับการใช้รถยนต์และการขนส่งมากกว่าภาคปศุสัตว์ ทั้งที่ข้อมูลจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติจะรายงานว่าเนื้อสัตว์และนมมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกถึงร้อยละ 14.5 อย่างไรก็ตาม …

Copyright @2021 – All Right Reserved.