ไอเดียสุดล้ำ “วัดถ้ำกระบอก” คิดค้นวิธีแปรรูป “ขยะพลาสติก” เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ด้วยกระบวนการไพโรไลซิส ผลิตน้ำมันได้กว่า 10,000 ลิตร ช่วยทั้งวัด ผู้ป่วยติดยาเสพติด และสิ่งแวดล้อม แถมลดภาระค่าใช้จ่ายได้ถึง 50,000 บาทต่อเดือน
“วัดถ้ำกระบอก” เป็นศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติด ที่รองรับผู้เข้ารับการบำบัดจำนวนมาก ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายของวัดเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะค่าน้ำมัน ที่ใช้สำหรับรถขนส่ง และเครื่องจักร ซึ่งเคยสูงถึง 50,000 บาทต่อเดือน
พระอาจารย์บุญส่ง ฐานะจาโร วัย 79 ปี ประธานมูลนิธิวัดถ้ำกระบอก ตระหนักว่า หากไม่มีแนวทางลดต้นทุน วัดจะต้องแบกรับภาระหนักหน่วง จึงเริ่มศึกษาวิธีแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ด้วยกระบวนการไพโรไลซิส (Pyrolysis) ซึ่งเป็นการเผาพลาสติกในระบบปิด เพื่อเปลี่ยนสภาพเป็นน้ำมัน โดยหวังลดค่าใช้จ่าย และแก้ปัญหาขยะไปพร้อมกัน
พระอาจารย์บุญส่ง ฐานะจาโร ประธานมูลนิธิวัดถ้ำกระบอก
โครงการนี้เริ่มต้นในเดือนสิงหาคม 2567 ด้วยเงินลงทุนเริ่มแรก 30,000 บาท สำหรับอุปกรณ์ทดลองชุดแรก หลังจากการทดลอง พบว่า น้ำมันที่ผลิตได้สามารถใช้งานจริงได้ดี โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ วัดจึงขยายโครงการด้วยการสร้างเตากลั่นขนาดใหญ่ ที่รองรับขยะพลาสติกได้ครั้งละ 550 กิโลกรัม ปัจจุบัน วัดผลิตน้ำมันได้แล้วกว่า 10,000 ลิตร และมีน้ำมันสำรองอีก 5,000 ลิตร รวมเงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 300,000 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะช่วยลดค่าใช้จ่าย ลดปริมาณขยะ และสร้างพลังงานสำหรับใช้เอง เงินที่เคยจ่ายค่าน้ำมันถูกนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยติดยาเสพติดและทำบุญแทน
กระบวนการผลิตใช้วัตถุดิบหลัก คือขยะพลาสติกประเภท PE และ PP ซึ่งเหมาะสมที่สุดสำหรับการแปรรูปเป็นเชื้อเพลิง ขยะพลาสติกที่สะอาด จะถูกเผาในระบบปิดที่อุณหภูมิ 350-500 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ไอน้ำมันที่เกิดขึ้น จะถูกควบแน่น และแยกออกเป็นน้ำมันดีเซลสำหรับเครื่องจักร และน้ำมันเบนซินสำหรับเครื่องยนต์ทั่วไป
ขยะพลาสติกก่อนแปลงเป็นน้ำมัน
จากการทดลองพบว่า พลาสติก 1 กิโลกรัม สามารถผลิตน้ำมันได้ถึง 1.3 ลิตร ซึ่งเกินความคาดหมาย เนื่องจากน้ำมันที่ได้มีน้ำหนักเบากว่าวัตถุดิบเดิม และใช้งานได้ดีกับเครื่องยนต์ของวัดโดยไม่มีผลกระทบใดๆ
พระอาจารย์บุญส่ง เล่าว่า เดิมทีขยะพลาสติกเป็นปัญหาทั้งต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ขณะที่วัดต้องแบกรับค่าใช้จ่ายสูง จึงเกิดแนวคิดลดต้นทุนโดยไม่พึ่งพาการบริจาค หลังจากศึกษาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตและทดลองด้วยตนเอง แม้ไม่มีเครื่องมือทันสมัยหรือทีมวิศวกร ทุกอย่างพัฒนาขึ้นจากการลองผิดลองถูก ขยะที่เคยไร้ค่ากลายเป็นพลังงานที่มีประโยชน์ ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติก ซึ่งย่อยสลายยากและตกค้างในธรรมชาติได้นานนับร้อยปี
“เราไม่ได้มีเครื่องมือไฮเทค หรือทีมวิศวกร ทุกอย่างเกิดจากการลองผิดลองถูกของเราเอง ขยะที่เคยไร้ค่า กลายเป็นพลังงานที่มีประโยชน์ นอกจากช่วยลดค่าใช้จ่ายแล้ว กระบวนการนี้ยังช่วยกำจัดขยะพลาสติก ซึ่งเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ย่อยสลายยาก ขยะพลาสติกสามารถคงอยู่ในธรรมชาติได้นับร้อยปี แต่การนำมาแปรรูปเป็นน้ำมัน ช่วยลดปริมาณขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใครอยากศึกษา เรายินดีให้ความรู้ มาดูของจริงที่วัดได้ เพราะเราทำเพื่อแก้ปัญหาขยะและลดภาระค่าใช้จ่าย ไม่ได้ทำเพื่อการค้า” พระอาจารย์บุญส่งกล่าว พร้อมยินดีแบ่งปันความรู้ให้ผู้สนใจ โดยเชิญชวนให้มาดูการทำงานจริงที่วัดได้
ปัจจุบัน วัดถ้ำกระบอกมีแผนพัฒนาโครงการต่อไป โดยมุ่งปรับปรุงระบบกรองน้ำมันให้ได้คุณภาพสูงขึ้น เพื่อผลิตน้ำมันที่สะอาดยิ่งกว่าเดิม โครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่ายและแก้ปัญหาขยะ แต่ยังเป็นตัวอย่างของการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน โดยไม่มุ่งหวังผลกำไรทางการค้า
