‘ประมงไทย’ ยั่งยืน ผ่านเกณฑ์ MMPA ปกป้องสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม 

by Pom Pom

ประเทศไทยประสบความสำเร็จ ในการผ่านการประเมินตามกฎหมาย MMPA ของสหรัฐอเมริกา สะท้อนความมุ่งมั่นในการทำประมงอย่างยั่งยืนและอนุรักษ์สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม ส่งผลให้สินค้าประมงไทยทุกประเภทสามารถส่งออกไปสหรัฐฯ ได้อย่างเต็มที่ พร้อมยกระดับภาพลักษณ์การประมงไทยในเวทีโลก

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า องค์การสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Oceanic and Atmospheric Administration: NOAA) ได้ประกาศผลการพิจารณาความเทียบเคียงตามกฎหมายว่าด้วยการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำ เพื่อคุ้มครองสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม (Marine Mammal Protection Act: MMPA) อย่างเป็นทางการ ใน Federal Register และเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของ NOAA โดยครอบคลุมสินค้าประมงทั้งหมด 2,500 รายการ จาก 135 ประเทศทั่วโลก

ผลการประเมินระบุว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 89 ประเทศที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณา โดยรายการสัตว์น้ำทั้งหมดที่ได้จากเครื่องมือประมงของไทยผ่านมาตรฐาน MMPA และการประมงของไทยที่อยู่ในบัญชีรายชื่อการประมงต่างประเทศ (List of Foreign Fisheries: LOFF) มีความสอดคล้องกับมาตรการทางกฎหมายของสหรัฐอเมริกา ทำให้สินค้าประมงของไทยสามารถส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาได้ทุกรายการโดยไม่มีข้อจำกัด

ความสำเร็จนี้เป็นผลจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของประเทศไทยตั้งแต่ปี 2560 โดยกรมประมงและกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในฐานะคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ได้จัดส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย MMPA ให้กับสหรัฐอเมริกาอย่างสม่ำเสมอ ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า สินค้าสัตว์น้ำของไทยไม่ได้มาจากการจับสัตว์น้ำที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ เสียชีวิต หรือกระทบต่อการดำรงอยู่ของสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม เช่น โลมาอิรวดี วาฬ และพะยูน ซึ่งเป็นสัตว์ที่ได้รับการคุ้มครอง ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ

เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน MMPA ประเทศไทยได้ดำเนินการหลายด้านเพื่ออนุรักษ์สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมจากการทำประมง หนึ่งในนั้นคือการจัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติเพื่อการอนุรักษ์และบริหารจัดการสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม พ.ศ. 2566 – 2570 ซึ่งมุ่งเน้นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น เพื่อบริหารจัดการและอนุรักษ์สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการปรับปรุงมาตรา 66 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 เพื่อสนับสนุนให้ชาวประมงสามารถช่วยเหลือสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมที่ติดเครื่องมือประมงได้ทันทีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความผิดทางกฎหมาย การแก้ไขนี้ช่วยลดอัตราการตายของสัตว์ทะเลจากการติดเครื่องมือประมงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ กรมประมงยังได้จัดการฝึกอบรมและประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการอนุรักษ์และการปฏิบัติต่อสัตว์ทะเลหายากอย่างถูกวิธี โดยตั้งแต่ปี 2560 ได้จัดการฝึกอบรมทั้งหมด 96 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 5,500 ราย ครอบคลุมชาวประมง บุคคลทั่วไป และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง การฝึกอบรมเหล่านี้เน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการช่วยเหลือสัตว์ทะเลที่ติดเครื่องมือประมง การรายงานการพบเห็นสัตว์ทะเลหายาก และแนวทางการทำประมงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในด้านนวัตกรรม ประเทศไทยได้ดำเนินโครงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงเครื่องมือประมงและวิธีการทำการประมง โดยมีการทดลองติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณ (Pinger) ในอวนติดตาและอวนจมปูในพื้นที่อ่าวไทยตอนบน และอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีรายงานการแพร่กระจายของโลมาอิรวดี ผลจากการทดลองพบว่า เครื่องส่งสัญญาณช่วยลดการติดอวนโดยบังเอิญของสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่พบสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมติดอวนในระหว่างการทดลอง นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาเครื่องมือประมงอื่นๆ เช่น การใช้ตาข่ายที่มีขนาดเหมาะสมเพื่อลดการจับสัตว์ที่ไม่ใช่เป้าหมาย (bycatch) และการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันสัตว์ทะเล (Turtle Excluder Devices: TEDs) ในอวนลาก เพื่อป้องกันการติดของเต่าทะเลและสัตว์ทะเลขนาดใหญ่

จากการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า ความสำเร็จของไทยในการผ่านการประเมิน MMPA ไม่เพียงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม แต่ยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านการประมงที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การผ่านเกณฑ์ MMPA นี้ ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าประมงไทยในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกที่สำคัญ

โดยในปี 2567 มูลค่าการส่งออกสินค้าประมงของไทยไปยังสหรัฐฯ มีมูลค่าประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 20% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าประมงทั้งหมดของไทย การรักษามาตรฐาน MMPA จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมประมงของไทย

นายบัญชา กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นถึงความพยายามของประเทศไทยในการส่งเสริมการทำประมงอย่างรับผิดชอบ โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมและสิ่งแวดล้อม ผลการประเมิน MMPA ในครั้งนี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงความเข้มงวดของมาตรการป้องกันและการจัดการประมงของไทย กรมประมงจะยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการอนุรักษ์สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมอย่างต่อเนื่อง และประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้าว่าสินค้าประมงของไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสอดคล้องกับมาตรฐานสากลอย่างแท้จริง

Copyright @2021 – All Right Reserved.