กรุงเทพมหานคร ชี้เหตุ ‘ถนนทรุด’ หน้าวชิรพยาบาล เกิดจากดินไหลเข้าอุโมงค์สร้างรถไฟฟ้า ย้ำ ความปลอดภัยสูงสุด ออกมาตรการเร่งด่วน 7 ข้อ ควบคุมสถานการณ์ งดบริการผู้ป่วยนอก 2 วัน
เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงถึงเหตุการณ์ผิวจราจรทรุดตัวบริเวณหน้าวชิรพยาบาล ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ ซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ไซต์งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงสถานีโรงพยาบาลวชิระ อันเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างอุโมงค์รถไฟฟ้าและสถานี ส่งผลให้เกิดการยุบตัวของพื้นดิน ท่อประปาขนาดใหญ่ชำรุด ดินไหลเข้าสู่พื้นที่ก่อสร้าง และมีน้ำรั่วไหลเข้าสู่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน
เบื้องต้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร การประปานครหลวง และการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการตัดน้ำประปาและไฟฟ้าในพื้นที่ เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันความเสี่ยงเพิ่มเติม พร้อมยืนยันว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ มีเพียงยานพาหนะได้รับความเสียหาย 3 คัน พื้นที่เสี่ยงภัยได้ถูกกำหนดเป็นเขตห้ามเข้าเพื่อความปลอดภัย
สาเหตุของถนนทรุดตัว
เหตุการณ์ถนนทรุดตัวครั้งนี้ มีสาเหตุหลักมาจากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ซึ่งอยู่ในช่วงการขุดเจาะอุโมงค์และก่อสร้างสถานีโรงพยาบาลวชิระ การทรุดตัวเกิดขึ้นบริเวณจุดเชื่อมต่อระหว่างอุโมงค์รถไฟฟ้าและตัวสถานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการขุดเจาะดินลึกและอาจส่งผลต่อความมั่นคงของชั้นดินด้านบน การเคลื่อนตัวของดินในระหว่างการก่อสร้างทำให้เกิดโพรงใต้ผิวจราจร ส่งผลให้ถนนยุบตัวลง นอกจากนี้ การชำรุดของท่อประปาขนาดใหญ่ในบริเวณใกล้เคียงอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของแรงดันในชั้นดิน หรือการสั่นสะเทือนจากเครื่องจักรที่ใช้ในงานก่อสร้าง ซึ่งทำให้น้ำรั่วไหลและชะล้างดินเข้าไปในพื้นที่ก่อสร้างเพิ่มเติม สภาพดังกล่าวอาจถูกซ้ำเติมจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ฝนตกหนัก ซึ่งอาจเพิ่มปริมาณน้ำในระบบและทำให้ดินไหลลงสู่โพรงมากขึ้น
มาตรการเร่งด่วน 7 ข้อเพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันผลกระทบเพิ่มเติม
- ตัดน้ำประปาและจัดระบบจ่ายน้ำสำรอง: การประปานครหลวงได้ตัดน้ำประปาในพื้นที่เพื่อป้องกันน้ำรั่วไหลเพิ่มเติม พร้อมจัดระบบจ่ายน้ำสำรองให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ประชาชนยังคงมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ
- ตัดกระแสไฟฟ้าและสายไฟโดยรอบ: การไฟฟ้านครหลวงดำเนินการตัดไฟฟ้าและสายไฟในบริเวณใกล้เคียง เพื่อลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าช็อตหรืออันตรายอื่น ๆ ที่อาจเกิดจากน้ำรั่ว
- อุดรอยรั่วของอุโมงค์: ดำเนินการปิดรอยรั่วในอุโมงค์ก่อสร้างเพื่อป้องกันการไหลของดินและน้ำเข้าสู่สถานี ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุของการทรุดตัว
- ประเมินความปลอดภัยของอาคารโดยรอบ: ทีมวิศวกรจะตรวจสอบความมั่นคงของอาคารในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอาคารได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของดิน
- ติดตั้งระบบมอนิเตอร์และกล้อง CCTV: จัดตั้งระบบตรวจสอบการเคลื่อนตัวของดินอย่างต่อเนื่อง พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์แบบเรียลไทม์
- ตรวจสอบความมั่นคงของอาคารหลัก: เน้นการตรวจสอบโครงสร้างอาคารสำคัญ เช่น โรงพยาบาลวชิระ และอาคารใกล้เคียง เพื่อยืนยันความปลอดภัย
- จัดการจราจร: ประสานงานกับตำรวจจราจรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบริหารจัดการการจราจรในพื้นที่ ลดผลกระทบต่อประชาชนที่สัญจรผ่านบริเวณดังกล่าว
การบริหารจัดการเพิ่มเติม
นายชัชชาติ ระบุว่า สภาพฝนตกเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น เนื่องจากน้ำฝนอาจชะล้างดินลงสู่โพรงที่เกิดจากการก่อสร้างเพิ่มเติม จึงได้สั่งตั้งทีมงานเฉพาะกิจเพื่อวางแผนรับมือในกรณีที่มีฝนตก โดยจะพิจารณามาตรการป้องกันการไหลของดินเพิ่มเติม เช่น การเสริมความแข็งแรงของพื้นที่หรือการปิดกั้นน้ำฝนไม่ให้เข้าสู่จุดเสี่ยง
ผลกระทบต่อโรงพยาบาลวชิระ
โรงพยาบาลวชิระได้ปรับรูปแบบการให้บริการเพื่อความปลอดภัย โดยงดให้บริการผู้ป่วยนอกเป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 2 วัน (24-25 กันยายน 2568) เพื่อลดความหนาแน่นของการจราจรและอำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการสถานการณ์ในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม การรักษาผู้ป่วยในยังคงดำเนินการตามปกติ และได้จัดให้โรงพยาบาลเครือข่ายในสังกัดกรุงเทพมหานครรองรับผู้ป่วยนอกในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้ผู้ป่วยยังคงได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครและการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการในพื้นที่เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมีการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าสองครั้งต่อวัน ในเวลา 12.00 น. และ 18.00 น. เพื่อประเมินสถานการณ์และปรับแผนการดำเนินงานให้เหมาะสม นายชัชชาติย้ำว่า ความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของโครงสร้างเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด และทุกหน่วยงานกำลังทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้แจ้งให้ นางมัลลิกา จิระพันธุ์วานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ร่วมกับนายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อกำกับดูแลการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด
โดยในเบื้องต้น ผู้ว่าการ รฟม. พร้อมด้วยผู้อำนวยการโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ และทีมงาน ได้สั่งการให้หยุดการก่อสร้างบริเวณพื้นที่เกิดเหตุในทันที เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุ พร้อมทั้งปิดกั้นพื้นที่ก่อสร้างบางส่วน และอพยพประชาชนโดยรอบออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
รฟม. ได้ประสานหน่วยงานสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้อง ทั้งการประปานครหลวง การไฟฟ้านครหลวง บริษัทโทรคมนาคม และตำรวจในพื้นที่ เพื่อเร่งแก้ไขสถานการณ์ รวมถึงจัดการจราจรในพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้สัญจร ทั้งนี้ โรงพยาบาลวชิรพยาบาลได้แจ้งปิดรับผู้ป่วยนอกเป็นเวลา 2 วัน และคงเหลือเฉพาะการให้บริการผู้ป่วยใน