‘ผำ’ พืชมหัศจรรย์ สศท.5 หนุน สร้างรายได้ยั่งยืนให้เกษตรกร

by Pom Pom

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 นครราชสีมา (สศท.5) หนุน “ผำ” พืชแห่งอนาคต สู่โปรตีนทางเลือกยุคใหม่ตามนโยบายเกษตรมูลค่าสูง

นายชายศักดิ์ วุฒิศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 นครราชสีมา (สศท.5) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ท่ามกลางความท้าทายจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมที่พึ่งพิงธรรมชาติอย่างใกล้ชิด การค้นหาพืชทางเลือกที่ปรับตัวได้ดี ใช้น้ำน้อย เติบโตเร็ว และมีศักยภาพทางเศรษฐกิจกลายเป็นทางออกสำคัญ

“ผำ” หรือไข่น้ำ พืชน้ำจืดที่กำลังได้รับความสนใจในฐานะ “อาหารแห่งอนาคต” (Future Food) เป็นหนึ่งในคำตอบ ด้วยคุณสมบัติการเพาะเลี้ยงง่ายในบ่อธรรมชาติ หรือบ่อควบคุม ช่วยรักษาระบบนิเวศน้ำ และสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น ไข่ผำแห้ง อาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ สร้างรายได้ให้เกษตรกรและชุมชนอย่างยั่งยืน

(สศท.5) หนุน “ผำ” พืชแห่งอนาคต สู่โปรตีนทางเลือกยุคใหม่ตามนโยบายเกษตรมูลค่าสูง

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญกับนโยบาย “เกษตรมูลค่าสูง” และแนวทาง “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” เพื่อส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่ทำน้อยแต่ได้มาก การส่งเสริม “ผำ” เป็นผลจากการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กรมประมง สศก. และหน่วยงานในพื้นที่ โดยมุ่งเน้นการผลิตตามความต้องการของตลาด พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเพาะเลี้ยง และสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน

จากการลงพื้นที่สำรวจข้อมูลสินค้าเกษตรของ สศท.5 เพื่อวิเคราะห์ตลาดและราคาสินค้าเกษตรมูลค่าสูง พบว่า “ผำ” เป็นพืชที่สอดคล้องกับนโยบายเกษตรมูลค่าสูงของกระทรวงเกษตรฯ ตัวอย่างเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จคือ นายวิทยา ม้วนสูงเนิน จากบ้านปรางค์ หมู่ 11 ตำบลหินดาด อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา ผู้บุกเบิกการเลี้ยงผำในพื้นที่ เขาเล่าว่า ผำมีจุดเด่นคือดูแลง่าย ลงทุนต่ำ ไม่ใช้สารเคมี และใช้เวลาเพียง 7-15 วันก็เก็บผลผลิตได้ โดยให้โปรตีนสูงถึง 35-40% ของน้ำหนักแห้ง เหมาะสำหรับแปรรูปเป็นผงโปรตีน อาหาร ขนม เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือผสมในอาหารสัตว์เพื่อลดต้นทุน

(สศท.5) หนุน “ผำ” พืชแห่งอนาคต สู่โปรตีนทางเลือกยุคใหม่ตามนโยบายเกษตรมูลค่าสูง

นายวิทยาเริ่มเลี้ยงผำจากบ่อดินเพียง 1 บ่อ เก็บผลผลิตขายที่ตลาดหมู่บ้าน 5 วันต่อสัปดาห์ วันละ 20 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 50 บาท สร้างรายได้สัปดาห์ละ 5,000 บาท ต่อมาได้ขยายช่องทางจำหน่ายผ่านออนไลน์ ได้รับการตอบรับดีเยี่ยม สามารถขายส่งได้ 1,100 กิโลกรัมต่อเดือน ราคากิโลกรัมละ 40 บาท สร้างรายได้กว่า 40,000 บาทต่อเดือน ปัจจุบันเขาขยายการเลี้ยงเป็น 3 บ่อ (ขนาด 46×35 เมตร) โดยการลงทุนเริ่มต้นต่อบ่อใช้เพียงค่าพันธุ์ผำ 20 กิโลกรัม ราค 1,000 บาท และปุ๋ยคอก 10 กระสอบ ราคา 500 บาท แต่สามารถเก็บผลผลิตได้ต่อเนื่อง 5-10 ปี หากดูแลสภาพน้ำและป้องกันสัตว์กินพืช เช่น ปลาหรือหอย ปัจจุบันผลผลิตยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดที่มีเข้ามาต่อเนื่อง นายวิทยาจึงวางแผนขยายการผลิตในอนาคต

“การส่งเสริมผำสู่การผลิตเชิงพาณิชย์จะช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ลดการพึ่งพาโปรตีนจากสัตว์ และสอดคล้องกับเป้าหมายความมั่นคงทางอาหารของประเทศ ผำยังตอบโจทย์กระแสโลกที่เน้นลดก๊าซเรือนกระจกและใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ด้วยการใช้พื้นที่น้อย เติบโตเร็ว และไม่ก่อให้เกิดของเสียต่อสิ่งแวดล้อม ควรผลักดันผำให้เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ โดยร่วมกับหน่วยงานวิจัยเพื่อพัฒนามาตรฐานการผลิตและส่งเสริมการเข้าถึงตลาดทั้งในและต่างประเทศ ในอนาคต ผำอาจกลายเป็นโปรตีนทางเลือกที่ยั่งยืน ช่วยเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้เกษตรกรไทย และตอบสนองความต้องการอาหารเพื่อสุขภาพของผู้บริโภคยุคใหม่” นายชายศักดิ์กล่าว

(สศท.5) หนุน “ผำ” พืชแห่งอนาคต สู่โปรตีนทางเลือกยุคใหม่ตามนโยบายเกษตรมูลค่าสูง

ทั้งนี้ ผลการสำรวจข้อมูลจะนำไปเสนอในเวทีประชุมเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาการเกษตรในระดับพื้นที่ ร่วมกำหนดแผนงานและแนวทางเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรอย่างมั่นคงต่อไป ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นายวิทยา ม้วนสูงเนิน โทร 08-0296-1892

Copyright @2021 – All Right Reserved.