กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้ม “ฝุ่น PM2.5” แจ้งเตือนชาวนา ที่มีประวัติการ “เผาตอซังข้าว” หมดสิทธิเข้าร่วมโครงการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพเกษตรกร ทุกโครงการ นั่นหมายถึง เงินไร่ละ 1,000 ด้วย
การ “เผาตอซังข้าว” ของเกษตรกรชาวนา เป็นอีกต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 ซึ่งทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีมาตรการเพื่อป้องกัน และแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้กำชับให้มีมาตรการอย่างเข้มข้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงนามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เนื่องจากปัญหามลพิษทางอากาศจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) นับเป็นวิกฤติที่ส่งผลกระทบ ต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน และสิ่งแวดล้อมโดยรวมของประเทศ
ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 เห็นชอบให้ส่วนราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้องยกระดับการปฏิบัติการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศและฝุ่นละออง PM2.5 ด้านการเกษตร ที่เกิดจากการเผา อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร ราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง มาตรการบริหาร จัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ภาคการเกษตร”
ข้อ 2 ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ประกาศเป็นต้นไป
ข้อ 3 ในประกาศนี้
“โครงการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพเกษตรกร” หมายความว่า มาตรการ โครงการ กิจกรรม หรือการดำเนินงานอื่นใดที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือหน่วยงานในสังกัดจัดทำขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนหรือส่งเสริมการพัฒนาด้านการเกษตร และช่วยเหลือเกษตรกรทุกโครงการ ยกเว้นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร
“หน่วยงาน” หมายความว่า ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์การมหาชน ในสังกัด และภายใต้การกำกับของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
“การเผาในพื้นที่การเกษตร” หมายความว่า การเผาที่เกิดจากการกระทำของเกษตรกร หรือใช้ หรือก่อให้ผู้อื่นเผาในพื้นที่การเกษตรของตน หรือพื้นที่การเกษตรที่เกษตรกรมีสิทธิครอบครอง หรือใช้ประโยชน์ในที่ดิน ในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2570
ข้อ 4 ในการจัดทำโครงการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพเกษตรกร ให้หน่วยงานกำหนด คุณสมบัติของเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการ โดยเกษตรกรจะต้องไม่มีประวัติทำการเผาในพื้นที่การเกษตร
ข้อ 5 ให้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ส่งข้อมูลพื้นที่เผาไหม้ (Burn Scar) ในพื้นที่การเกษตรให้กรมส่งเสริมการเกษตรดำเนินการตรวจสอบข้อมูลของเกษตรกรที่ทำการเผาในพื้นที่ ดังกล่าว โดยประสานขอรับการสนับสนุนจากคณะกรรมการหมู่บ้านให้พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ การเผาดังกล่าว แล้วแจ้งผลการตรวจสอบให้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อดำเนินการต่อไป
ข้อ 6 ให้หน่วยงานที่มีการดำเนินโครงการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรกำหนด คุณสมบัติของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ โดยต้องไม่เป็นผู้ที่มีประวัติการเผาในพื้นที่การเกษตรตามประกาศนี้ หากพบว่าเกษตรกรที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการมีประวัติการเผาในพื้นที่การเกษตร ให้ถือว่าขาดคุณสมบัติ การเข้าร่วมโครงการนั้น และให้หน่วยงานแจ้งผลการพิจารณาให้เกษตรกรรายดังกล่าวทราบด้วย
ข้อ 7 ในกรณีเกษตรกรรายใดมีประวัติการเผาในพื้นที่การเกษตร เกษตรกรรายนั้น จะไม่ได้รับสิทธิในการเข้าร่วมโครงการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรทุกโครงการ โดยเป็นการขาดคุณสมบัติ ในการเข้าร่วมโครงการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรนับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2570
นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งมาจากการเผาในพื้นที่เกษตร ทำให้เกิดควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) มากขึ้น เกิดเป็นมลพิษในอากาศ ที่กระจายตัวในวงกว้าง ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในปัจจุบัน จึงต้องออกประกาศอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การดำเนินงานบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ภาคการเกษตร เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น หากใครมีประวัติการเผาพื้นที่การเกษตรให้ถือว่าขาดคุณสมบัติในการรับ “เงินไร่ละ 1,000” ทันที
ด้าน กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดพิจิตร ได้โพสต์ข้อความแจ้งเตือนเกษตรกร โดยอ้างถึงประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง มาตรการบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ไม่เกิน 2.5 ไมครอน ( pm 2.5) ภาคการเกษตร ระบุว่า การเผาในพื้นที่เกษตรในช่วงวันที่ 17 มกราคม-31 พฤษภาคม 2568 เมื่อมีการตรวจสอบ เกษตรกรจะถูกบันทึกเป็นผู้มีประวัติการเผา และจะถูกกำหนดให้ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการภาครัฐ ที่มีการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพเกษตรกร หรือขาดคุณสมบัติ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 – 31 พฤษภาคม 2570 (เป็นเวลา 2 ปี)
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับการป้องกันเนื่องจากยังมีการเผาในพื้นที่เกษตร ส่งผลต่อการเกิดมลพิษ
อ้างอิง :