‘พายุวิภา’ ถล่ม ฝนหนักทั่วไทย เสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม

by Pom Pom

“พายุวิภา” อ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชัน แต่ยังส่งผลให้ฝนตกหนักถึงหนักมากทั่วไทย กระทรวงมหาดไทยสั่งตั้งวอร์รูม 24 ชั่วโมง ส่งเครื่องจักรกลและเฮลิคอปเตอร์พร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม 

เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” (WIPHA) ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน โดยมีศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศลาว ห่างจากจังหวัดน่านของประเทศไทยประมาณ 180 กิโลเมตร คาดว่าพายุจะเคลื่อนตัวผ่านลาวตอนบนและภาคเหนือตอนบนของไทย และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงภายในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568.

“พายุวิภา” เส้นทางและความเคลื่อนไหว

พายุวิภา ขึ้นฝั่งบริเวณเมืองท้ายบิ่ญ ประเทศเวียดนาม เมื่อเช้าวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางใต้ด้วยความเร็ว 15-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.

หลังขึ้นฝั่ง พายุอ่อนกำลังลงอย่างต่อเนื่องและเคลื่อนเข้าสู่ลาวตอนบน ขณะนี้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในรูปแบบฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลางด้านตะวันตก และภาคตะวันออก.

พายุโซนร้อนวิภา

ผลกระทบในประเทศไทย

ฝนตกหนักถึงหนักมาก

อิทธิพลของพายุ “วิภา” ร่วมกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในช่วงวันที่ 22-24 กรกฎาคม 2568 พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมาก ได้แก่

  • ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก และเชียงใหม่
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม
  • ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี
  • ภาคตะวันออก: จังหวัดจันทบุรีและตราด
  • กรุงเทพมหานครและปริมณฑล: ฝนตกหนักถึงร้อยละ 70 ของพื้นที่.

ความเสี่ยงจากน้ำท่วมและดินถล่ม

กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนให้ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่ลาดเชิงเขาและลุ่มน้ำ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2567.

คลื่นลมแรง

ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงเกิน 4 เมตร แนะนำให้เรือเล็กงดออกจากฝั่ง.

ฝนตก-น้ำท่วม ผลกระทบจากพายุวิภา

ล่าสุด สถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอปง จ.พะเยา จากอิทธิพลของพายุ “วิภา” โดยบริเวณพื้นที่ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำป่าหลากจากต้นน้ำดอยผาช้าง และพื้นที่บ้านสันติสุข ไหลบ่าลงสู่ลำน้ำควร จนทะลักเข้าท่วมพื้นที่เขตเทศบาลตำบลปง อำเภอปง จังหวัดพะเยา

น้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ถนนสายหลักและพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ระดับน้ำบางจุดสูงจนรถไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอาสาสมัครกู้ภัยในพื้นที่ ได้เร่งเข้าช่วยเหลือประชาชน พร้อมประกาศเตือนให้นำสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง

สภาพอากาศยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และอาจเกิดน้ำท่วมซ้ำซ้อนในหลายพื้นที่ หากฝนยังไม่หยุดตกในช่วง 24-48 ชั่วโมงข้างหน้า ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากทางการอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมอพยพในกรณีฉุกเฉิน

ฝนตก-น้ำท่วม ผลกระทบจากพายุวิภา

กระทรวงมหาดไทยเตรียมความพร้อมและมาตรการรับมือ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งวอร์รูม 24 ชั่วโมง ที่ศูนย์ป้องกันภัยแห่งชาติ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมอบหมายให้ทุกจังหวัดติดตามสถานการณ์และประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง พร้อมกับส่งเครื่องจักรกลหนักไปยังจังหวัดเชียงรายและน่าน ซึ่งคาดว่าจะเผชิญน้ำหลาก พร้อมกับใช้ระบบแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast ส่งข้อความเตือนไปยังพื้นที่เสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์

นอกจากนี้ ได้ประสานกับกระทรวงกลาโหม โดยกองบัญชาการทหารสูงสุดเตรียมเฮลิคอปเตอร์พร้อมปฏิบัติการ 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน.

แม้ว่าพายุ “วิภา” จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน แต่ยังคงเน้นย้ำให้ประชาชนในพื้นที่ป่าสูง เชิงเขา และที่ราบลุ่ม เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม.

Copyright @2021 – All Right Reserved.