Climate Change

  • “น้ำท่วมเท็กซัส” ครั้งประวัติศาสตร์ สังเวยทะลุ 100 ราย สูญหายอีกนับสิบ นักวิชาการ เผยเหตุผล ภาวะโลกร้อน และข้อจำกัดด้านการพยากรณ์ สร้างความเสียหายหนักในพื้นที่ตะวันตกและตอนกลางของรัฐ ในช่วงวันที่ 4-5 กรกฎาคม 2025 รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เผชิญกับอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สร้างความเสียหายรุนแรงในพื้นที่ตะวันตกและตอนกลางของรัฐ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ฝนตกหนักต่อเนื่อง 6 วัน ทำให้ปริมาณน้ำฝนสูงถึง 1,000-1,200 มิลลิเมตร (40-45 นิ้ว) โดยเฉพาะในพื้นที่เชิงเขา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย …

  • ภาวะโลกร้อนกำลังส่งผลกระทบรุนแรงต่อกรุงเทพฯ และสมุทรปราการ ด้วยระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นและการกัดเซาะชายฝั่งที่ทวีความรุนแรง หากไม่มีการรับมืออย่างจริงจัง พื้นที่เหล่านี้อาจจมน้ำภายในปี 2050 ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ภาวะโลกร้อนกำลังสร้างผลกระทบอย่างหนักต่อประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเผชิญกับปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งและระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามรายงานของ องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) คาดการณ์ว่าในช่วงปี 2025–2029 อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะสูงขึ้น 1.2 ถึง 1.9 องศาเซลเซียส เทียบกับยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม (ค.ศ. 1760–1825) โดยมีแนวโน้มแตะ 1.5 …

  • องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกชี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้คลื่นความร้อนรุนแรงและถี่ขึ้น โดยเฉพาะในยุโรปที่กำลังเผชิญอุณหภูมิสูงผิดปกติ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมรับมือเพื่อลดความสูญเสีย เจนีวา (1 ก.ค.) – องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ระบุว่า โลกต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับคลื่นความร้อน เนื่องจากยุโรปส่วนใหญ่กำลังเผชิญอุณหภูมิสูงในช่วงฤดูร้อน โดยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากกิจกรรมของมนุษย์ จะทำให้คลื่นความร้อนเกิดบ่อยและรุนแรงขึ้นในอนาคต แคลร์ นูลลิส โฆษก WMO กล่าวว่า เดือนกรกฎาคมเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดในซีกโลกเหนือ และการเกิดคลื่นความร้อนในช่วงต้นฤดูร้อนถือเป็นเรื่องผิดปกติ แม้จะไม่ใช่ครั้งแรก คลื่นความร้อนถูกขนานนามว่า “ฆาตกรเงียบ” เนื่องจากมักไม่มีการบันทึกผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจำนวนมาก แต่สามารถป้องกันได้ด้วยความรู้และเครื่องมือที่มีอยู่ ยุโรปตะวันตกกำลังเผชิญสภาพอากาศร้อนจัด จากระบบความกดอากาศสูงที่นำอากาศร้อนจากแอฟริกาเหนือเข้ามา ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกและพฤติกรรมของผู้คน …

  • “เอเชียร้อนจัด” รุนแรงเกือบสองเท่าของค่าเฉลี่ยโลก ส่งผลให้เกิดคลื่นความร้อน พายุ และภัยแล้ง คุกคามความมั่นคงด้านอาหาร ระบบนิเวศ และเศรษฐกิจ เอเชีย ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก กำลังเผชิญวิกฤตสภาพอากาศที่รุนแรง อุณหภูมิในภูมิภาคนี้สูงขึ้นเกือบสองเท่าของค่าเฉลี่ยโลก ตามรายงานสถานะสภาพอากาศในเอเชียปี 2024 โดยองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) หน่วยงานของสหประชาชาติ ระบุว่า ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ร้อนที่สุด หรือร้อนเป็นอันดับสองในประวัติการณ์ของทวีป ขึ้นอยู่กับชุดข้อมูล โดยอุณหภูมิเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.04 องศาเซลเซียส (1.87 องศาฟาเรนไฮต์) จากระดับพื้นฐานในช่วงปี 1991–2020 ภาวะโลกร้อนในเอเชีย: อัตราเร่งที่น่ากังวล …

  • “หิ่งห้อยเบธานีบีช” เผชิญภัยคุกคามจากมลพิษทางแสง ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และการพัฒนาชายฝั่ง  ส่งผลให้ประชากรลดลงอย่างน่าใจหาย  รัฐบาลสหรัฐฯ  เสนอขึ้นบัญชีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์เพื่อปกป้องสายพันธุ์นี้ หิ่งห้อยเบธานีบีช (Photuris bethaniensis) เป็นแมลงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยแสงวาบสีเขียวสองครั้ง ซึ่งพบได้ในพื้นที่ชุ่มน้ำน้ำจืดระหว่างเนินทราย (interdunal swales) ตามแนวชายฝั่งของเดลาแวร์ แมริแลนด์ และเวอร์จิเนีย อย่างไรก็ตาม หิ่งห้อยสายพันธุ์นี้กำลังเผชิญกับภัยคุกคามร้ายแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มลภาวะทางแสง และการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่ง ซึ่งอาจนำไปสู่ความชราก่อนวัยของระบบนิเวศและการสูญพันธุ์ของสายพันธุ์นี้ ภัยคุกคามจากมลพิษและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นภัยคุกคามหลักที่คุกคามแหล่งที่อยู่อาศัยของหิ่งห้อยเบธานีบีช ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจากภาวะโลกร้อนและพายุที่รุนแรงขึ้นคุกคามพื้นที่ชุ่มน้ำน้ำจืด (swales) ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยเฉพาะของหิ่งห้อยสายพันธุ์นี้ ตามการประมาณการของ …

  •     สัตว์ที่น่ารักที่สุดอันดับหนึ่งของทวีปแอนตาร์กติกา อาจช่วยกอบกู้โลกได้ ผลการศึกษาล่าสุด พบว่าแอมโมเนียที่ปล่อยออกมาจาก “มูลเพนกวิน” อาจช่วยก่อตัวเป็นเมฆที่ช่วยรักษาโลกและป้องกันไม่ให้น้ำแข็งในทะเลละลาย   ในทวีปแอนตาร์กติกาที่หนาวเย็นและห่างไกล สัตว์ที่น่ารักอย่าง “เพนกวิน” อาจเป็นกุญแจสำคัญในการชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผลการศึกษาล่าสุด ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Communications Earth & Environment เผยว่า แอมโมเนียที่ปล่อยออกจากมูลเพนกวิน สามารถช่วยก่อตัวเป็นเมฆที่สะท้อนแสงแดด ช่วยลดความร้อนและชะลอการละลายของน้ำแข็งในทะเล และธารน้ำแข็งในภูมิภาคนี้ การค้นพบนี้ไม่เพียงแสดงถึงความเชื่อมโยงอันน่าทึ่งระหว่างระบบนิเวศและสภาพภูมิอากาศ แต่ยังเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของแอนตาร์กติกาในการรักษาเสถียรภาพของโลก   โรงงานเมฆจากมูลเพนกวิน   นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ …

Copyright @2021 – All Right Reserved.