EU จ่อใช้ ‘คาร์บอนเครดิต’ ต่างชาติ ลดเป้าปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปี 2040

by Pom Pom

คณะกรรมาธิการยุโรป เตรียมเสนอใช้ “คาร์บอนเครดิต” จากต่างประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจก 90% ภายในปี 2040 พร้อมเพิ่มความยืดหยุ่นให้อุตสาหกรรมและประเทศสมาชิก ลดภาระการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ข้อเสนอจะเปิดตัว 2 ก.ค. 2025 และรอการอนุมัติจาก EU

 

ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) เตรียมเสนอให้สหภาพยุโรป (EU) อนุญาตให้นับคาร์บอนเครดิตจากต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิลง 90% ภายในปี 2040 เมื่อเทียบกับระดับในปี 1990

 

ร่างข้อเสนอภายในที่รอยเตอร์ได้รับระบุว่า ข้อเสนอนี้จะถูกนำเสนออย่างเป็นทางการในวันที่ 2 กรกฎาคม 2025 เพื่อเป็นแนวทางในการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศของ EU พร้อมทั้งเพิ่มความยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองความกังวลจากบางประเทศสมาชิก เช่น อิตาลี โปแลนด์ และสาธารณรัฐเช็ก ที่กังวลเกี่ยวกับต้นทุนของการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด

 

การใช้คาร์บอนเครดิตต่างประเทศ

 

ร่างข้อเสนอระบุว่า EU จะอนุญาตให้ใช้ “คาร์บอนเครดิตระหว่างประเทศคุณภาพสูง” จากตลาดคาร์บอนที่ได้รับการรับรองจากองค์การสหประชาชาติ (UN) โดยเครดิตเหล่านี้สามารถนับรวมได้สูงสุด 3% ของเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2040 และจะเริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ปี 2036 เป็นต้นไป ซึ่งจะมีกฎหมายของ EU ในลำดับถัดไปเพื่อกำหนดแหล่งที่มา เกณฑ์คุณภาพ และวิธีการจัดซื้อคาร์บอนเครดิตคาร์บอนเครดิตเหล่านี้มาจากโครงการในต่างประเทศที่ช่วยลดหรือกักเก็บคาร์บอน เช่น การฟื้นฟูป่าไม้ในบราซิล หรือโครงการพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคอื่น การใช้เครดิตเหล่านี้จะช่วยลดแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมในยุโรปในการลดการปล่อยก๊าซโดยตรง และลดภาระการลงทุนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ

 

ความยืดหยุ่นในเป้าหมายและแนวทางผ่อนปรน

 

เพื่อตอบสนองต่อความกังวลของประเทศสมาชิกเกี่ยวกับต้นทุนและผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม คณะกรรมาธิการยุโรปได้ปรับข้อเสนอให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ดังนี้

 

  • การรวมคาร์บอนเครดิตจากการดักจับคาร์บอน: ร่างข้อเสนอแนะนำให้บูรณาการคาร์บอนเครดิตจากเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนโดยตรงจากชั้นบรรยากาศ (Direct Air Capture) เข้าสู่ตลาดคาร์บอนของ EU ช่วยให้อุตสาหกรรมสามารถชดเชยการปล่อยก๊าซบางส่วนได้
  • ความยืดหยุ่นสำหรับแต่ละประเทศ: ประเทศสมาชิกสามารถกำหนดเองว่าภาคเศรษฐกิจใดจะรับภาระหลักในการลดการปล่อย เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและเหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศ
  • การพิจารณาความสมดุลระหว่างเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและภาระอื่น: ร่างข้อเสนอคำนึงถึงความท้าทายด้านการเงินของประเทศสมาชิกที่ต้องรับมือกับการเปลี่ยนผ่านสีเขียวควบคู่กับลำดับความสำคัญอื่น เช่น ความมั่นคงทางทหาร

 

การปรับข้อเสนอให้ยืดหยุ่นมากขึ้น เกิดจากแรงต้านจากบางประเทศและภาคอุตสาหกรรมที่กังวลว่ากฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดอาจกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ EU ต้องแข่งขันกับประเทศที่มีต้นทุนพลังงานต่ำกว่า เช่น จีนและสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดยังต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีใหม่ และการฝึกอบรมแรงงาน

 

โฆษกของคณะกรรมาธิการยุโรป ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับร่างข้อเสนอนี้ โดยระบุว่า อาจมีการปรับเปลี่ยนก่อนการประชุมอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 กรกฎาคม 2025 อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้จะต้องผ่านการเจรจาและได้รับความเห็นชอบจากทั้ง 27 ประเทศสมาชิกและรัฐสภายุโรปก่อนจะมีผลบังคับใช้ ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมตามผลการเจรจา

 

ทั้งนี้ ข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรป สะท้อนถึงความพยายามในการสร้างสมดุลระหว่างเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศที่ท้าทายและความเป็นจริงทางเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก การอนุญาตให้ใช้คาร์บอนเครดิตจากต่างประเทศและเพิ่มความยืดหยุ่นในนโยบายอาจช่วยลดภาระให้กับอุตสาหกรรมและบางประเทศ แต่ก็อาจจุดประกายการถกเถียงเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของคาร์บอนเครดิตและความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซภายในภูมิภาค EU เอง การเจรจาในขั้นตอนต่อไปจะเป็นตัวกำหนดว่านโยบายนี้จะถูกนำไปปฏิบัติในรูปแบบใด

Copyright @2021 – All Right Reserved.