16 กันยายน ‘วันโอโซนโลก’ ร่วมปกป้องชั้นโอโซน เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

by Pom Pom

16 กันยายน “วันโอโซนโลก” ร่วมตระหนักถึงความสำคัญของชั้นโอโซน ซึ่งเปรียบเสมือนเกราะป้องกันโลกของเราจากรังสีอัลตราไวโอเลต อันตรายจากดวงอาทิตย์ พร้อมชวนรำลึกถึง 40 ปี แห่งพิธีสารมอนทรีออลที่ประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูชั้นโอโซน

วันที่ 16 กันยายนของทุกปี ถูกกำหนดโดยองค์การสหประชาชาติให้เป็น วันโอโซนโลก (World Ozone Day) เพื่อรำลึกถึงการลงนามใน พิธีสารมอนทรีออล (Montreal Protocol) เมื่อปี 2530 ซึ่งเป็นความตกลงระหว่างประเทศเพื่อลดการใช้สารเคมีที่ทำลายชั้นโอโซน เช่น คลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFCs) ชั้นโอโซนในบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์ทำหน้าที่ปกป้องสิ่งมีชีวิตบนโลกจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่เป็นอันตราย การปกป้องชั้นโอโซนจึงไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อม แต่เป็นเรื่องของสุขภาพและความอยู่รอดของมนุษยชาติ

ความสำคัญของชั้นโอโซน

ชั้นโอโซนเปรียบเสมือน “ร่ม” ธรรมชาติที่กรองรังสี UV-B และ UV-C จากดวงอาทิตย์ หากไม่มีชั้นโอโซน สิ่งมีชีวิตบนโลกจะเผชิญกับความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนัง ต้อกระจก และระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลง นอกจากนี้ รังสียูวียังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ เช่น การเจริญเติบโตของพืชและการอยู่รอดของแพลงก์ตอนในมหาสมุทร ซึ่งเป็นฐานของห่วงโซ่อาหารในอดีต การใช้สาร CFCs ในเครื่องทำความเย็น สเปรย์ และโฟมพลาสติก ทำให้ชั้นโอโซนบางลง โดยเฉพาะบริเวณขั้วโลกใต้ที่เกิด “รูโหว่โอโซน” (Ozone Hole) การค้นพบนี้ในช่วงทศวรรษ 1980 กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้โลกตื่นตัวและนำไปสู่พิธีสารมอนทรีออล

พิธีสารมอนทรีออล: ความสำเร็จของความร่วมมือระดับโลก

พิธีสารมอนทรีออลเป็นตัวอย่างของความสำเร็จในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับโลก ด้วยการลงนามของ 197 ประเทศ ทำให้การใช้สารทำลายชั้นโอโซนลดลง 99% ผลลัพธ์คือ ชั้นโอโซนเริ่มฟื้นตัว โดยนักวิทยาศาสตร์จากโครงการประเมินทางวิทยาศาสตร์ขององค์การสหประชาชาติ (UNEP) คาดการณ์ว่ารูโหว่โอโซนบริเวณแอนตาร์กติกาอาจปิดสนิทได้ภายในปี 2609 หากทุกฝ่ายยังคงยึดมั่นในความตกลงนี้

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงมีอยู่ การใช้สารทดแทนบางชนิด เช่น ไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน (HFCs) ซึ่งถึงแม้จะไม่ทำลายชั้นโอโซน แต่เป็นก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อน ทำให้เกิดการแก้ไขพิธีสารมอนทรีออลในปี 2559 ด้วย การแก้ไขคิกาลี (Kigali Amendment) เพื่อลดการใช้ HFCs ทั่วโลก

วันโอโซนโลก 2568

ในปี 2568 วันโอโซนโลก เน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความสำเร็จของพิธีสารมอนทรีออลและการจัดการกับความท้าทายใหม่ๆ เช่น การควบคุมสาร HFCs และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของชั้นโอโซน ธีมของวันโอโซนโลกในปีนี้อาจมุ่งเน้นไปที่ “ความร่วมมือเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน” เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงบทบาทของตน

ในปี 2568 วันโอโซนโลกเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความสำเร็จของพิธีสารมอนทรีออล และการจัดการกับความท้าทายใหม่ๆ ธีมประจำปีนี้คือ “From Science to Global Action” (จากวิทยาศาสตร์สู่การดำเนินการระดับโลก) ซึ่งสะท้อนถึงเส้นทางจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบปัญหาการเสื่อมโทรมของชั้นโอโซน สู่การกระทำร่วมกันของนานาชาติที่นำไปสู่การฟื้นฟู ธีมนี้ยังกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงบทบาทของวิทยาศาสตร์ในการกำหนดนโยบายและการดำเนินการเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

ทั่วโลกมีการจัดกิจกรรมหลากหลาย เช่น เว็บินาร์จาก Periyar Tiger Reserve เรื่อง “From Science to Global Action” โดย Dr. Bharath Govind G S จาก Climatehood Foundation, งานสัมมนาแห่งชาติที่ Atma Ram Sanatan Dharma College กรุงเดลี, และควิซออนไลน์จาก Sulabh-IIHH EIACP RP ภายใต้กระทรวงสิ่งแวดล้อมอินเดีย เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการมุ่งมั่นในการปกป้องโอโซน

ในประเทศไทย PetroApp Thailand ได้รณรงค์ผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อส่งเสริมการประหยัดพลังงานและสร้างพื้นที่สีเขียว ขณะที่องค์กรระดับโลกอย่าง UNEP เผยแพร่โปสเตอร์ วิดีโอแคมเปญ และคำแถลงจากเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมจากทุกคน

Copyright @2021 – All Right Reserved.