ปล่อยวางความคิดไม่แฟร์ไม่ยุติธรรม

by Admin

Part 2 การปล่อยวางความคิด

เปลี่ยนมุมมอง อย่าซ้ำเติมเพิ่มทุกข์

การอยู่กับมะเร็งหรือาการป่วยไข้อื่นอย่างเข้าใจ ตามที่พระไพศาล_วิสาโล เล่ามา บอกกับทุกคนว่า โรคร้ายไม่ได้พรากอะไรไปจากเราเสียทั้งหมด สำหรับบางคนอาจทำให้รู้จักตัวเองและรับมือกับมันได้มากขึ้นจนหายจากโรคซึมเศร้า บางคนได้ค้นพบจุดหมายของชีวิตและหันชีวิตจากการหาเงินหาทองมาเป็นการมาใช้ชีวิตเต็มร้อย

สำหรับบางคน มะเร็งทำให้เขาได้เข้าใจความทุกข์และอยู่กับความทุกข์ได้ดีขึ้น และสำหรับบางคนมะเร็งมันให้โอกาสให้เวลาที่เขาจะได้เตรียมตัวเตรียมใจ เพื่อทำให้วันสุดท้ายของชีวิตมันมีความหมาย และมีความสุข

พระไพศาลอยากให้ทุกคนปรับมุมมองเกี่ยวกับมะเร็งหรือความเจ็บป่วยด้วย “การปล่อยวาง” ปล่อยวางในที่นี้คือปล่อยวางที่ “ใจ” โดยที่ยังคงรักษาเยียวยาบรรเทาโรค หรือการบริหารกายที่ยังต้องทำต่อไป แต่ถ้าเป็นเรื่องใจสิ่งที่สามารถทำได้คือการปล่อยวาง

ปล่อยวางอย่างแรกคือ ปล่อยวางความคิดว่ามันไม่แฟร์ มันไม่ยุติธรรม หลายคนพอพูดถึงโรคร้ายมันมีความรู้สึกนี้มันไม่แฟร์เลยนะฉันอุตส่าห์กระทำความดี อุตส่าห์สร้างบุญสร้างกุศล ฉันยังอายุไม่มาก ฉันไม่สูบบุหรี่ไม่กินเหล้า ทำไมฉันเป็นมะเร็งปอด ทำไมฉันเป็นมะเร็งนั่นมะเร็งนี่ เป็นธรรมดามากที่จะมีความรู้สึกว่ามันไม่แฟร์ มันไม่ยุติธรรม

บางคนดูแลรักษาร่างกายอย่างดี กินอาหารสุขภาพ แมคโครไบโอติกส์ (วิธีรับประทานอาหารโดยจำกัดชนิดของอาหารที่รับประทาน) หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นสารเคมีอัลตราโพรเซสฟู้ดก็ไม่แตะ จังฟู้ดก็แทบจะไม่ได้เอาเข้าปากเลยมาเป็นเวลาหลายปี กินอาหารเสริมที่มีราคาแพง คิวเทน, สาหร่ายเกลียวทอง (สไปรูลินา) สารพัด

แล้วทำไมฉันเป็นมะเร็ง ทำไมฉันยังเป็นเบาหวาน อะไรที่มันเกิดขึ้นแล้วถ้าเรายังคิดว่ามันไม่แฟร์ มันไม่ยุติธรรมมันจะเป็นการซ้ำเติมตัวเอง นี่ไม่ใช่เฉพาะโรคภัยไข้เจ็บ อาจจะรวมไปถึงการที่เราสูญเสียทรัพย์โดนแก๊งก์มิจฉาชีพมาหลอกเอาเงินไปจนหมดจากบัญชีในธนาคาร น้ำท่วมไฟไหม้เสียทรัพย์

ถ้าเราปล่อยให้ความรู้สึกว่ามันไม่แฟร์ไม่ยุติธรรมเกิดขึ้นมันจะเป็นการซ้ำเติมตัวเรา คนบางคนบอกเป็นมะเร็งปอดทั้งที่สูบบุหรี่มาตั้ง 30 ปีก็ไม่แฟร์ที่ฉันเป็นมะเร็งปอด เพราะ 5 ปีหลังฉันสูบแค่วันละ 6 ม้วนเท่านั้นเอง

มีคนหนึ่งแกป่วยหนักเพราะว่ากินเหล้าจนกระทั่งเลือดไม่แข็งตัวมันซึมออกทางเข้าและผิวหนังและเมื่อเขาอยู่ในระยะสุดท้ายเขาก็บ่นกับหมอว่ามันไม่แฟร์เลย ทุกวันนี้ที่ผมกินเหล้าเนี่ยผมเติมน้ำ ละลายให้มันจางลงแล้วทำไมผมยังเป็นยังป่วยหนักขนาดนี้อีกไม่ใช่เลิกนะอยากกินอยู่ แต่เติมน้ำให้มันจางลง

มันธรรมดามากที่เราจะบ่นว่ามันไม่แฟร์ แต่เราควรตระหนักว่าการทัศนคติแบบนี้ มันตอกย้ำซ้ำเติมเพิ่มทุกข์ป่วยกายไม่พอป่วยใจด้วย จะดีกว่าไหมถ้าเรายอมรับมันยว่าความเจ็บป่วยเกิดขึ้นแล้ว

มีผู้หญิงคนหนึ่งอายุ 30 วันหนึ่งเธอพบว่าเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดที่จะเกิดขึ้นกับคนแก่หรือสูบบุหรี่จัด เธอไม่เคยแตะบุหรี่แล้วเธอก็อายุเพิ่ง 30 ตอนที่เธอรู้เธอโกรธมาก เธอเหวี่ยงวีนใส่หมอว่าทำไมหมอบอกช้า ก็เพราะหมอไม่คิดว่ามะเร็งชนิดนี้จะเกิดขึ้นกับเธอ

เธอเหวี่ยงใส่หมอไม่พอ เธอเหวี่ยงวีนใส่คนที่บ้าน พ่อแม่ เธอรู้เธอผิดปกติ เธอก็เลยไปเข้าคอร์ส เพราะมีความทุกข์มาก เธอก็เลยพบว่า เหตุแห่งความทุกข์ก้อนใหญ่ มันคือการไม่ยอมรับความจริง พอเธอปรับใจเสียใหม่เธอยอมรับมันแล้ว เธอมีความสุขกว่าเดิม

เธอบอกมะเร็งไม่ได้ทำให้รอยยิ้มของคุณหายไป ความทุกข์ใจต่างหากที่มันทำ และที่ทุกข์ใจเพราะว่าไม่ยอมรับความจริง เธอบอกว่าบางครั้งความจริงก็โหดร้าย แต่การไม่ยอมรับความจริงต่างหากที่โหดร้ายกว่า เพราะมันเหมือนทุกข์ที่ขังใจเราไว้ จริงๆ ด้วยเราไปต่อไม่ได้ถ้าเราไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เฉพาะความเจ็บป่วยแต่รวมถึงความล้มเหลว ความสูญเสีย อกหักรักคุด ต่อเมื่อเรายอมรับเราถึงจะไปต่อได้ วิธีที่จะช่วยให้เราปล่อยวางความรู้สึกว่ามันไม่แฟร์ ไม่ยุติธรรมคือ การยอมรับสิ่งนั้น…นี่คือการปล่อยวางอย่างแรก

Copyright @2021 – All Right Reserved.