นักวิทยาศาสตร์ ค้นพบ ข้อมูลดาวเทียมเผยภัยเงียบที่น่ากลัว ทวีปทั่วโลกกำลังแห้งเหือด “น้ำจืด” ลดลงอย่างรวดเร็ว คุกคามชีวิตผู้คนนับพันล้าน และเร่งระดับน้ำทะเลให้สูงขึ้น
ข้อมูลล่าสุดจากดาวเทียม GRACE และ GRACE-FO ซึ่งเก็บข้อมูลมากว่า 22 ปี (พ.ศ. 2545-2567) เผยให้เห็นวิกฤตที่น่าตกใจ ทวีปต่างๆ ทั่วโลกกำลังสูญเสียน้ำจืดในอัตราที่น่าตระหนก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูบน้ำใต้ดินอย่างเกินพอดี และภัยแล้งที่ยืดเยื้อได้เร่งให้เกิด “เขตแห้งแล้งครั้งใหญ่” ซึ่งขยายตัวถึง 831,600 ตารางกิโลเมตรต่อปี หรือเทียบเท่าพื้นที่สองเท่าของรัฐแคลิฟอร์เนีย การสูญเสียน้ำจืดนี้ไม่เพียงคุกคามความมั่นคงด้านน้ำและอาหารของมนุษยชาติ แต่ยังมีส่วนทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างน่ากังวล
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัฐแอริโซนาได้ระบุเขตแห้งแล้งขนาดใหญ่ 4 แห่งในซีกโลกเหนือที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ได้แก่
- แคนาดาตอนเหนือและอลาสกา: ปริมาณน้ำบนบกลดลง 0.34 นิ้วต่อปี โดยไม่รวมธารน้ำแข็ง
- รัสเซียตอนเหนือ: สูญเสียน้ำ 0.16 นิ้วต่อปี เนื่องจากการละลายของชั้นดินเยือกแข็งถาวรและภัยแล้งที่ยาวนาน
- อเมริกาเหนือตะวันตกเฉียงใต้และอเมริกากลาง: น้ำลดลง 0.30 นิ้วต่อปี ส่งผลกระทบต่อเมืองใหญ่ เช่น ลอสแอนเจลิส ลาสเวกัส และเม็กซิโกซิตี้
- ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) รวมถึงแพนยูเรเซีย: ภูมิภาคนี้สูญเสียน้ำรุนแรงที่สุด โดยแอ่งคงคา-พรหมบุตรลดลง 0.43 นิ้วต่อปี และทะเลแคสเปียนกับทะเลอารัลลดลงถึง 1.18 นิ้วต่อปี
เขตแห้งแล้งเหล่านี้กำลังรวมตัวเป็นแนวแห้งแล้งระดับทวีปที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง โดยตั้งแต่ปี 2557 พื้นที่แห้งแล้งสุดขั้วเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านตารางไมล์ต่อปีในพื้นที่ที่ไม่มีธารน้ำแข็ง ปรากฏการณ์นี้สัมพันธ์กับเหตุการณ์เอลนีโญครั้งใหญ่ ซึ่งบ่งชี้ถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของระบบน้ำจืดทั่วโลก
น้ำใต้ดินเป็นแหล่งน้ำจืดที่สำคัญที่สุด คิดเป็น 68% ของการสูญเสียน้ำทั้งหมดบนบก รองลงมาคือน้ำผิวดิน (18%) ความชื้นในดิน (9%) และน้ำจากหิมะ (5%) การสูบน้ำใต้ดินอย่างไม่ยั่งยืนในภูมิภาคแห้งแล้ง เช่น ลุ่มแม่น้ำสินธุ ที่ราบจีนตอนเหนือ และหุบเขาตอนกลาง ทำให้แหล่งน้ำใต้ดินขนาดใหญ่ครึ่งหนึ่งของโลกกำลังลดลงในอัตรา 10% หรือมากกว่าต่อปี เมื่อเทียบกับน้ำหมุนเวียน
“น้ำใต้ดินเปรียบเสมือนกองทุนทรัสต์โบราณ เมื่อสูบออกมาแล้วแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะเติมคืนในช่วงชีวิตมนุษย์” หฤษีเกศ เอ. จันดันปุรการ์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัฐแอริโซนากล่าว “เรากำลังสูญเสียน้ำจืดในอัตราที่น่าตกใจ โดยไม่ได้พยายามเติมน้ำในช่วงที่มีฝนตกชุก ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะล้มละลายของแหล่งน้ำจืด”
ปัจจุบัน 75% ของประชากรโลก หรือกว่า 6 พันล้านคน อาศัยอยู่ใน 101 ประเทศที่สูญเสียน้ำจืดตั้งแต่ปี 2545 การเติบโตของประชากรควบคู่ไปกับการลดลงของน้ำจืดเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงของโลก นอกจากนี้ การสูญเสียน้ำจากพื้นดิน โดยเฉพาะน้ำใต้ดิน มีส่วนทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นถึง 44% หรือ 0.04 นิ้วต่อปี ซึ่งมากกว่าผลกระทบจากธารน้ำแข็งในกรีนแลนด์ หรือแอนตาร์กติกา
ในขณะที่เขตร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตรยังคงมีความชื้นอยู่บ้าง แต่ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในแบบจำลองสภาพภูมิอากาศของ IPCC ทำให้เกิดความกังวลว่าระบบน้ำจืดทั่วโลกอาจถึงจุดวิกฤตเร็วกว่าที่คิด
ผลการวิจัยนี้จะถูกรวบรวมในรายงานของธนาคารโลกเกี่ยวกับวิกฤตน้ำฉบับต่อไป เพื่อนำเสนอแนวทางแก้ไขให้รัฐบาลทั่วโลกที่เผชิญปัญหาการขาดแคลนน้ำ
อ้างอิง :