‘แผ่นดินไหว’ เขย่าอันดามัน 15 ครั้ง ในวันเดียว จับตาสัญญาณภัยครั้งใหญ่

by Pom Pom

ทะเลอันดามันเกิด “แผ่นดินไหว” ต่อเนื่อง 15 ครั้ง ภายในวันเดียว รุนแรงถึง 5.5 ริกเตอร์ ใกล้จุดสึนามิปี 47 ผู้เชี่ยวชาญเตือนสัญญาณอันตราย แนะติดตามข่าวสาร ศึกษาเส้นทางอพยพ

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวติดต่อกันถึง 15 ครั้ง ภายในระยะเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง บริเวณนอกชายฝั่งทะเลอันดามัน ห่างจากประเทศไทยไปทางตะวันตกเฉียงใต้ โดยจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ในแนวรอยเลื่อนใต้ทะเล ใกล้หมู่เกาะนิโคบาร์และหมู่เกาะอันดามันของอินเดีย ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกับที่เคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 9.2–9.3 ริกเตอร์ เมื่อปี 2547 นำไปสู่คลื่นสึนามิที่สร้างความเสียหายรุนแรงในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ความรุนแรงของแผ่นดินไหวในครั้งนี้อยู่ระหว่าง 3.5 ถึง 5.5 ตามมาตราริกเตอร์ ซึ่งจัดเป็นระดับปานกลาง แม้จะยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือการเกิดสึนามิ แต่เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลให้กับประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งอันดามัน เช่น จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และระนอง ทำให้ทุกฝ่ายในพื้นที่เสี่ยงต่างจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ความเสี่ยงและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์

เพจ “มิตรเอิร์ธ – mitrearth” ซึ่งให้ความรู้ด้านธรณีวิทยา ได้โพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ โดยระบุว่า แผ่นดินไหวทั้ง 15 ครั้งเกิดเป็นกระจุก (earthquake swarm) ในบริเวณที่มีรายงานว่าเป็นภูเขาไฟใต้ทะเล ตามข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ มีความเป็นไปได้สามกรณีจากเหตุการณ์นี้:

  • ไม่มีอะไรเกิดขึ้น – อาจเป็นเพียงกลุ่มแผ่นดินไหวขนาดปานกลางที่เกิดขึ้นชั่วคราวและจะสิ้นสุดลงโดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบเพิ่มเติม คล้ายกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในบริเวณนี้เมื่อปี 2005 ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย
  • การปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเล – หากแผ่นดินไหวเกิดจากแมกมาแทรกดันหินขึ้นมา อาจนำไปสู่การปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเล ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำกระเพื่อมและส่งผลกระทบต่อชายฝั่งอันดามันของไทยได้
  • แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ – แม้โอกาสน้อย แต่บริเวณนี้มีประวัติการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ เช่น ขนาด 7.5 ในปี 1847 และขนาด 7.9 ในปี 1881 อย่างไรก็ตาม รอยเลื่อนในพื้นที่นี้ส่วนใหญ่เป็นแบบเลื่อนในแนวระนาบ (strike-slip fault) ซึ่งมักไม่ก่อให้เกิดสึนามิ เนื่องจากไม่มีการยกตัวของมวลน้ำในแนวตั้ง

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้งในระยะใกล้กันอาจบ่งบอกถึงการปลดปล่อยพลังงานในรอยเลื่อนที่ยังไม่สิ้นสุด ซึ่งอาจนำไปสู่แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในอนาคตได้ แม้ว่าความน่าจะเป็นของสึนามิจากเหตุการณ์นี้จะต่ำ แต่ก็ไม่ควรมองข้าม

ผู้เชี่ยวชาญจับสัญญาณอันตราย หลังแผ่นดินไหว 15 ครั้งในอันดามัน

มุมมองจากนักวิทยาศาสตร์ทางทะเล

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้แชร์โพสต์จากเพจมิตรเอิร์ธ พร้อมให้ความเห็นว่า ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนก แต่ควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยย้ำถึงสามความเป็นไปได้ดังกล่าว และแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่ฝั่งอันดามันเตรียมพร้อมโดยศึกษาเส้นทางอพยพและเฝ้าติดตามข่าวสารทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อความปลอดภัย

การเตรียมพร้อมของหน่วยงานและประชาชน

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.) ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นในจังหวัดชายฝั่งอันดามัน ได้เริ่มดำเนินการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีการตรวจสอบระบบเตือนภัยสึนามิ จุดอพยพ และจัดการซ้อมแผนเผชิญเหตุร่วมกับชุมชนในพื้นที่เสี่ยง เช่น กระบี่ ระนอง ตรัง พังงา และภูเก็ต ซึ่งเคยได้รับผลกระทบจากสึนามิเมื่อ 20 ปีก่อน นอกจากนี้ ยังมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ถึงวิธีปฏิบัติตนเมื่อเกิดแผ่นดินไหวหรือสัญญาณสึนามิ เช่น หากรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนรุนแรงหรือสังเกตว่าน้ำทะเลลดระดับลงอย่างผิดปกติ ควรรีบอพยพไปยังที่สูงทันทีโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ เนื่องจากคลื่นสึนามิอาจมาถึงชายฝั่งภายในเวลาไม่กี่นาที

ผู้เชี่ยวชาญจับสัญญาณอันตราย หลังแผ่นดินไหว 15 ครั้งในอันดามัน

ข้อแนะนำสำหรับประชาชน

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งอันดามันเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ โดยติดตามข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา หรือสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศึกษาเส้นทางอพยพและจุดรวมพลในกรณีฉุกเฉิน เตรียมกระเป๋ายังชีพที่มีสิ่งของจำเป็น เช่น น้ำ อาหาร ยา และเอกสารสำคัญ สังเกตสัญญาณเตือนจากธรรมชาติ เช่น การลดระดับของน้ำทะเลอย่างผิดปกติ หรือแรงสั่นสะเทือนที่รู้สึกได้ชัดเจน

เหตุการณ์แผ่นดินไหวต่อเนื่อง 15 ครั้งบริเวณทะเลอันดามันเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ยังไม่ก่อให้เกิดความเสียหายหรือสึนามิ แต่เป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งอันดามันกำลังเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมพร้อมรับมือทุกกรณีที่อาจเกิดขึ้น ประชาชนควรติดตามข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ศึกษาแนวทางปฏิบัติตน และเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อความปลอดภัยของตนเองและชุมชน

Copyright @2021 – All Right Reserved.