จุดประกายความหวังใหม่ เมื่อนักวิจัยค้นพบ บทบาทสำคัญในการฟื้นตัวของสาหร่ายทะเล มาจาก “นากทะเล” วีรบุรุษแห่งการต่อสู้กับภาวะโลกร้อนในท้องทะเล
สาหร่ายทะเลมีบทบาทสำคัญทั้งในระบบนิเวศและชีวิตมนุษย์ และยังช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ลดภาวะโลกร้อน และบางชนิดใช้ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ เป็นพลังงานทางเลือกที่ยั่งยืน แต่สาหร่ายทะเล กำลังเผชิญภัยคุกคามจากมลพิษ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการขยายตัวของสัตว์กินพืช เช่น เม่นทะเล ที่เพิ่มขึ้น
นากทะเล: ผู้ฟื้นฟูป่าสาหร่ายทะเล และความซับซ้อนของระบบนิเวศ
แต่เมื่อนากทะเลกลับคืนสู่เกาะต่างๆ ตามแนวชายฝั่งแคลิฟอร์เนียตอนใต้ และบริติชโคลัมเบีย นักวิจัยสังเกตเห็นการฟื้นตัวของป่าสาหร่ายทะเล ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกทำลายล้างโดยประชากรเม่นทะเล ที่เพิ่มขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ อย่างไรก็ตาม อัตราการฟื้นตัวที่แตกต่างกันระหว่างสถานที่ต่างๆ ได้จุดประกายคำถามในหมู่นักวิทยาศาสตร์ และการศึกษาล่าสุดจากมหาวิทยาลัยโคโลราโดโบลเดอร์ ได้ให้คำตอบที่น่าสนใจ โดยเผยว่า นากทะเล ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลัก (keystone species) มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูป่าสาหร่าย แต่ผลกระทบของมันขึ้นอยู่กับปฏิสัมพันธ์กับสายพันธุ์อื่นในระบบนิเวศ
บทบาทสำคัญของนากทะเล
นากทะเลเป็นที่รู้จักในฐานะสายพันธุ์หลักที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อม จิม เอสเตส นักวิทยาศาสตร์ผู้ทุ่มเทชีวิตให้กับการศึกษานากทะเล ค้นพบว่า พวกมันช่วยรักษาสมดุลของป่าสาหร่ายทะเล โดยการกินเม่นทะเล ซึ่งเป็นสัตว์ที่กินสาหร่ายเป็นอาหาร หากไม่มีนากทะเล ประชากรเม่นทะเลจะขยายตัวมากเกินไป และทำลายป่าสาหร่ายจนกลายเป็นพื้นที่รกร้างใต้น้ำ แต่เมื่อนากทะเลมีอยู่ พวกมันจะควบคุมจำนวนเม่นทะเล ทำให้สาหร่ายเติบโตและกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด
เพื่อศึกษาผลกระทบนี้ เอสเตสและเจน วัตสัน ได้ติดตามการกลับมาของนากทะเลในสองพื้นที่หลัก ได้แก่ เกาะนิโคลัสในแคลิฟอร์เนีย และเกาะแวนคูเวอร์ในบริติชโคลัมเบีย โดยเก็บข้อมูลอย่างละเอียดนานถึง 30 ปี ก่อนที่นากทะเลจะถูกนำกลับมา ทั้งสองพื้นที่เต็มไปด้วยเม่นทะเล และป่าสาหร่ายแทบสูญหายไป การวิจัยของพวกเขาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านากทะเลเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ
นอกจากนี้ นากทะเลต่างจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลอื่นๆ กับบทบาทสำคัญในการรักษาสภาพแวดล้อมของพวกมัน โดยพบว่า นากทะเลช่วยให้ระบบนิเวศดักจับคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศ และเก็บกักไว้เป็นชีวมวลและเศษซากในทะเลลึก ป้องกันไม่ให้ถูกแปลงกลับเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ ที่มีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ความแตกต่างในการฟื้นตัว
ถึงแม้ว่าป่าสาหร่ายจะฟื้นตัวในทั้งสองพื้นที่หลังจากการกลับมาของนากทะเล แต่บริติชโคลัมเบียกลับฟื้นตัวได้เร็วกว่าแคลิฟอร์เนียอย่างเห็นได้ชัด ในบริติชโคลัมเบีย นากทะเลสร้างปฏิกิริยาลูกโซ่ที่ชัดเจน: พวกมันลดจำนวนเม่นทะเลลง ทำให้สาหร่ายเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในแคลิฟอร์เนีย การฟื้นตัวนั้นช้ากว่า ซึ่งทำให้นักวิจัยต้องขุดลึกถึงสาเหตุของความแตกต่างนี้
ไรอัน แลงเกนดอร์ฟ หัวหน้าผู้เขียนการศึกษา ได้พัฒนาแบบจำลองใหม่ที่เปรียบเสมือน “ภาพยนตร์” แสดงปฏิสัมพันธ์ระหว่างสายพันธุ์ต่างๆ ในช่วงเวลาหลายทศวรรษ แบบจำลองนี้เผยว่าในแคลิฟอร์เนีย ระบบนิเวศมีความซับซ้อนมากกว่า ต่างจากบริติชโคลัมเบียที่ผลกระทบของนากต่อเม่นทะเลนั้นชัดเจน ในแคลิฟอร์เนียมีการแข่งขันระหว่างสายพันธุ์อื่นๆ เพิ่มเข้ามา ซึ่งลดทอนอิทธิพลโดยตรงของนากทะเล และทำให้การฟื้นตัวของป่าสาหร่ายช้าลง
มุมมองใหม่ต่อสายพันธุ์หลัก
“เราเคยคิดว่าสายพันธุ์หลักจะควบคุมระบบนิเวศในลักษณะเดียวกันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน” แลงเกนดอร์ฟกล่าว “แต่ตอนนี้เราเห็นว่าผลกระทบของมันอาจแตกต่างกันไปตามสถานที่และบริบทของระบบนิเวศ” แดน โดอัค ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยโคโลราโดโบลเดอร์ เสริมว่า “วิธีการที่ไรอันพัฒนาขึ้นช่วยให้เราเข้าใจว่า ‘กฎของเกม’ ในระบบนิเวศสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อความอุดมสมบูรณ์ของสายพันธุ์เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการศึกษาระบบนิเวศ”
ความหวังสำหรับการอนุรักษ์
การศึกษานี้ ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences ไม่เพียงให้ความกระจ่างเกี่ยวกับบทบาทของนากทะเล แต่ยังนำเสนอแนวทางใหม่ในการวิเคราะห์ระบบนิเวศที่ซับซ้อน โดยการใช้ข้อมูลระยะยาว นักวิทยาศาสตร์สามารถคาดการณ์ปฏิสัมพันธ์ของสายพันธุ์ต่างๆ ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น “ธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของระบบนิเวศทำให้เราต้องการเครื่องมือที่ทันสมัยเพื่อทำความเข้าใจและปกป้องมัน” แลงเกนดอร์ฟกล่าว
แนวทางนี้มีศักยภาพในการชี้นำความพยายามด้านการอนุรักษ์ทั่วโลก ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศที่เปราะบาง โดยเปลี่ยนข้อมูลจากการสำรวจทั่วไปให้กลายเป็นภาพเคลื่อนไหวที่แสดงถึงความสัมพันธ์อันซับซ้อนของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ
อ้างอิง :
- https://www.earth.com/news/sea-otters-help-kelp-forests-recover-but-theres-more-to-the-story/
- https://www.euronews.com/green/2025/03/04/kelp-scientists-discover-more-about-how-sea-otters-come-to-the-rescue-of-undersea-forests