การประกาศปรับเป้า Net Zero ของไทยใหม่ เป็นปี 2050 หรือเร็วกว่าเป้าเดิม 15 ปี รัฐบาลต้องการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอดของเศรษฐกิจไทยในโลกอนาคตโดยเฉพาะการผลักดันประเทศไทยก้าวสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
นโยบายนี้เป็นการปรับตัวเพื่อรับมือกติกาการค้าระหว่างประเทศและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทุกประเทศจะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อรักษาระดับการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยโลกไม่เกิน 1.5°C ซึ่งปัจจุบันการดำเนินการตาม NDC ล่าสุดของทุกประเทศยังไม่เพียงพอที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
ความท้าทายจากการประกาศดังกล่าวนี้จะเพิ่มแรงกดดันให้กับภาคอุตสาหกรรมผ่านมาตรการใหม่ ๆ ของรัฐบาลที่จะทยอยออกมา เช่น การเก็บภาษีคาร์บอน การบังคับใช้ระบบซื้อขายสิทธิในการปล่อยคาร์บอน ซึ่งจะเร่งให้กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปล่อยคาร์บอนสูง เช่น น้ำมันและก๊าซ, โรงไฟฟ้าฟอสซิล, เหล็ก, ซีเมนต์, เคมีภัณฑ์ และรถยนต์น้ำมัน ต้องปรับตัวให้ทันภายในระยะเวลา 15 ปี
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศนโยบายใหม่ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 ระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาลว่า จะผลักดันสังคมคาร์บอนต่ำ โดยประกาศให้ไทยบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2593 หรือ Net Zero ในปี ค.ศ. 2050 จากเดิมกำหนดจะบรรลุเป้าหมาย Net Zero ไว้ในปี 2065
ไทยปรับเป้า Net Zero ปี 2050
- ไทยเข้าสู่มาตรฐานสากล เช่นเดียวกับญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และเวียดนาม ที่ประกาศ Net Zero ปี 2050
- ไทยต้องเร่งลดการปล่อยคาร์บอนมากขึ้นเฉลี่ย ร้อยละ 10 ต่อปี
- ภาคเอกชนต้องเร่งปรับตัวได้เท่าทันโลก
- เปลี่ยนผ่านประเทศสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
- อุตสาหกรรมปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงจะเผชิญมาตรการใหม่ ๆ ของภาครัฐ เช่น การเก็บภาษีคาร์บอน และการบังคับใช้ระบบซื้อขายสิทธิในการปล่อยคาร์บอน
ไทยคงเป้า Net Zero ปี 2065
- บรรลุ Net Zero ช้ากว่า 111 ประเทศถึง 15 ปี
- เสี่ยงหลุดวงจรการค้าโลกในอนาคต
- ประเทศและบริษัทที่ตั้งเป้า Net Zero 2050 มีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าและบริการจากประเทศที่มีเป้าหมายเดียวกัน
กลุ่มอุตสาหกรรมไทยที่ต้องเร่งปรับตัว
- น้ำมันและก๊าซ • โรงไฟฟ้าฟอสซิล • เหล็ก • ซีเมนต์ • เคมีภัณฑ์ • รถยนต์น้ำมัน
- สถานการณ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย เท่ากับ 40.52 MtCO2eq หรือร้อยละ 10.50 ของทั้งประเทศ
สถานการณ์ก๊าซเรือนกระจกโลก
- ปี 2022 ทั่วโลกปล่อยก๊าซเรือนกระจก 49,510.08 MtCO₂eq และแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
- ประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุด 5 อันดับแรกของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งโลก (ร้อยละ)
1) จีน 13,499.42 MtCO₂eq
2) สหรัฐ 5,890.33 MtCO₂eq
3) อินเดีย 3,836.09 MtCO₂eq
4) สหภาพยุโรป 3,252.63 MtCO₂eq
5) รัสเซีย 2,417.52 MtCO₂eq
ประเทศไทย > อันดับที่ 20 ของโลก 0.82 MtCO₂eq
- แนวทางการลดก๊าซเรือนกระจกของทั้งโลกเพื่อรักษาระดับการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่เกิน 1.5°C Pathway พบว่า การดำเนินการตาม NDC ล่าสุดของทุกประเทศยังไม่เพียงพอที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
ความท้าทายจากการประกาศดังกล่าวนี้ ต้องอาศัยการร่วมมือกันจากทุกภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนประชาชน ที่จะร่วมกันปรับตัวให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและขับเคลื่อนให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายได้
ที่มา :
- https://www.nxpo.or.th/th/9651/
- https://thaipublica.org/2025/10/scb-eic-net-zero/
- https://thaipublica.org/2025/10/scb-eic-net-zero/
- https://policywatch.thaipbs.or.th/article/environment-140
- https://www.climatewatchdata.org
- รายงานความโปร่งใสรายสองปี ฉบับที่ 1 ของประเทศไทย




