อุณหภูมิโลกในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ทำลายสถิติร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ ที่ระดับ 0.93 องศาเซลเซียส และสูงกว่าสถิติเดิมในปี 2020 กว่า 0.5 องศาเซลเซียส ถือว่าสูงกว่าสถิติสูงสุดที่เคยมีมาตั้งแต่ปี 1991-2020 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดมากที่สุด เมื่อเทียบกับอุณหภูมิเฉลี่ยที่บันทึกไว้ตั้งแต่ปี 1940
Climate
แอนตาร์กติก ดินแดนแห่งน้ำแข็งและหิมะ ทวีปที่หนาว รกร้างว่างเปล่า และไม่เอื้ออำนวยต่อพืชสิ่งมีชิวตมากที่สุดในโลก จนกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ มีการพบดอกไม้บานในแอนตาร์กติกเพิ่มมากขึ้น ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าชื่นชม เพราะนี่คือสัญญาณอันตรายจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศโลก
อุณหภูมิผิวน้ำทะเลและทรายบริเวณชายฝั่งที่สูงขึ้น ส่งผลให้ไข่เต่าที่หาดเยเมนกว่า 90% ฟักออกมาเป็นตัวเมีย หากความไม่สมดุลทางเพศอย่างรุนแรงนี้ดำเนินต่อไป เต่าทะเลในเยเมนจะสูญพันธุ์โดยสิ้นเชิง
พื้นดินกำลังเปลี่ยนรูปจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น ส่งผลให้อาคารหลายแห่งทั่วโลกเสี่ยงทรุดตัว รวมไปถึงกระทบการทำงานของโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากอาคารและโครงสร้างส่วนใหญ่ไม่ได้ได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเหล่านี้
เยาวชนโปรตุเกสฟ้อง 32 ประเทศ ล้มเหลวจัดการโลกร้อน ถือว่าละเมิดสิทธิในการดำรงชีวิต รัฐบาลต้องบรรลุเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกที่สูงขึ้นกว่านี้
ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 8 ประเทศ ใน4 ทวีป ต้องเผชิญภัยพิบัติครั้งใหญ่จากเหตุการณ์ฝนตกและน้ำท่วม ที่ถูกกระตุ้นให้รุนแรงมากขึ้นจากสภาวะโลกร้อน
นักวิชาการหลายคนเชื่อว่าเหตุการสูญเสียครั้งนี้ไม่ใช่แค่แค่ความล้มเหลวในการซ่อมแซมเขื่อนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงระบบเตือนภัยที่ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในพื้นที่ขัดแย้ง
บรรดาผู้นำของประเทศที่เป็นเกาะเล็กๆ 9 แห่งถูกคุกคามจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ได้ยื่นคำร้องต่อศาลทางทะเลระหว่างประเทศ เพื่อขอความคุ้มครองมหาสมุทรโลกจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การศึกษาล่าสุดระบุแอนตาร์กติกมีแนวโน้มร้อนขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับอัตราส่วนที่เหลือของโลก และเร็วกว่าแบบจำลองการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่คาดไว้ เสี่ยงต่อการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลทั่วโลก
ฤดูร้อนโลกปีนี้อุ่นที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกมา โดยอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 16.77 องศาเซลเซียส